ทัวร์ทิเบต เดินแสวงบุญ Trek เขาไกรลาส ขุนเขาแห่งศรัทธา 2562
รายละเอียดทัวร์ทิเบต เขาไกรลาส
Day 1 : Bangkok – คุนหมิง – ลาซา
05.30 น. พบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน CHINA EASTERN AIRLINES (MU)
07.50 น. ออกเดินทางไปยังคุนหมิง โดยสายการบิน CHINA EASTERN AIRLINES เที่ยวบินที่ MU2584
ถึงคุนหมิง เวลา 11.15 น.
13.45 น. นำท่านเดินทางต่อไปยังลาซา โดยสายการบิน CHINA EASTERN AIRLINES เที่ยวบินที่ MU5827
16.30 น. เมืองหลวงของทิเบต เป็นดินแดนสวรรค์บนฟ้าที่เรียกขานกันว่า “หลังคาโลก” ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 3,650 เมตร ออกซิเจนที่ลาซาจึงค่อนข้างจะบางเบา ปัจจุบันเป็นทิเบตเป็นเขตปกครองตนเองเทียบเท่ามณฑลหนึ่งของประเทศจีน ในปี ค.ศ. 1951 ทางประเทศจีนได้ใช้กำลังทหารจากเมืองเฉินตูบุกเข้ายึดครองทิเบต ทำให้องค์ดาไลลามะ ต้องอพยพออกจากทิเบตพร้อมด้วยผู้ติดตามอีกประมาณ 5 หมื่นคนและได้ไปตั้งถิ่นฐานแห่งใหม่ของตนเองในประเทศอินเดียและเนปาลเพราะเนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ระดับสูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก มีความกดดันอากาศสูงกว่าปกติอาจจะทำให้มีอาการอ่อนเพลียบ้าง หรือปวดศีรษะ บางทีอาจท้องเสีย ท่านต้องพักผ่อนมากๆ ที่สำคัญ ไม่ควรอาบน้ำ สระผม หรือสูบบุหรี่ทันที
คืนนี้พักที่ Lhasa
Day 2 : Potala Palace – Sera Monastery – Barkhor Street
ชมสถานปัตยกรรมอันทรงคุณค่าและถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมชั้นยอดของทิเบต นั่นคือ พระราชวังฤดูหนาว (Potala Palace) โปตาลาของดาไลลามะ (คำว่า โปตาลา หมายถึง ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระโพธิสัตว์) เป็นอาคารขนาดใหญ่หลากสีสันทั้งขาว แดงและเหลือง ซึ่งแต่ละสีจะเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงลักษณะของการใช้งาน พระราชวังโปตาลามีทั้งหมด 13 ชั้น มากกว่า 1,000 ห้อง ผู้ไปเยือนจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ต่างๆทั่วทั้งเมืองลาซาได้อย่างถนัดตา
เยี่ยมชม วัดเซรา (Sera Monasty) ในภาษาทิเบต คำว่า “เซรา” แปลว่า สวนกุหลาบป่า เพราะในอดีตนั้นบริเวณนี้เคยเป็นดงดอกกุหลาบจำนวนมากนั่นเอง วัดเซราตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาตาติปู สร้างเมื่อ ค.ศ. 1419 โดยศิษย์รูปหนึ่งของท่านซองฆะปะ ท่านซองฆะปะนั้น เป็นผู้ปฏิรูปและก่อตั้งพุทธศาสนาลัทธิเกลุคปะ และยังเป็นอาจารย์ของดาไลลามะที่ 1อีกด้วย
ช้อปปิ้งเดินเลือกซื้อเลือกชมสินค้าได้อย่างอิสระ ที่ตลาดท้องถิ่น Barkhor Street หรือ ถนนแปดเหลี่ยม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลาซา บริเวณนี้นับว่าเป็นศูนย์รวมของศาสนาและวัฒนธรรมของชาวทิเบต ตลอดจนเหล่าบรรดาสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านต่างๆ ที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง ทำให้เห็นวัฒนธรรม และวิถีของชาวทิเบตที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์
คืนนี้พักที่ Lhasa
Day 3 : Lhasa – Yamdrok lake – Karola Glacier – Gyantse Shigatse
ไปยังเมือง ซิกัตเซ่ ระหว่างทาง แวะชมหนึ่งในสามทะเลสาบอันศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดของทิเบต Yamdrok lake (สามทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ คือ Namtso, Manasarovar, Yamdrok) ทะเลสาบแห่งนี้มีที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของแม่น้ำ Yarlong Tsangpo ในเขต Shannan และห่างจากทิเบตไปทางทิศใต้ราว 100 กิโลเมตร
ชมความมหัศจรรย์ของธารน้ำแข็ง Kharola Glacier ได้อย่างถนัดตา ถือว่าเป็นการชมธารน้ำแข็งที่ใกล้ชิดมากๆ
ชม เจดีย์ เจียนเซ่ คุมบุม (Gyangtse Kumbum Stupa) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบตและยังเป็นสถาปัตยกรรมที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้ชาวทิเบตรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมาก โดยความพิเศษของเจดีย์แห่งนี้คือตรงกลางของสถูปเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้แทนเส้นทางอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะนำไปสู่การปลดปล่อยทางจิตวิญญาณ หรือมัณฑาลา (Mandala) นอกจากนี้ท่านจะได้ชมศิลปะอันสวยงามของภาพจิตรกรรมฝาผนังที่รังสรรค์ขึ้นจากฝีมือของชาวเนปาล ซึ่งได้วาดไว้ตั้งแต่เมื่อศตวรรษที่ 15
คืนนี้พักที่ Shigatse
Day 4 : Shigatse – Tashi Lhunpo Monastery – Rongbuk
ชม วัดทาชิลุนโป (Tashilhunpo Monastery) ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1447 โดยองค์ดาไลลามะที่ 1 ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานและลูกศิษย์ของซองคาปา วัดทาชิลุนโป มีความสำคัญคือ เป็นที่พำนักของปัญเชนลามะ ที่ถือได้ว่าเป็นผู้นำทางศาสนาสูงสุดรองลงมาจากดาไลลามะ ภายในบริเวณวัดมีการสร้างสถูปอย่างยิ่งใหญ่โดยใช้ทองคำและเครื่องประดับอื่นๆที่มีค่า เนื่องจากสถูปแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาพระศพขององค์ปันเชนลามะ รวมถึงองค์ที่ 10 นอกจากนี้ยังมีรูปเคารพของพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งมีขนาดใหญ่สูง 26 เมตรประดิษฐานอยู่ภายใน
ชมอาราม Rongbuk Monastery โดยเดินเท้าเพื่อข้ามช่องเขานันปามายังวัดแห่งนี้ อันถือได้ว่าเป็นที่พึ่งทางจิตใจและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการแสวงบุญของชาวเซอร์ปา ที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของเทือกเขาเอเวอเรสต์ในเขตฆัมบู ประเทศเนปาล จึงนับได้ว่าอารามแห่งนี้เป็นศาสนสถานทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง และยังเป็นอารามที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก ที่ระดับความสูง 5,154 เมตรจากระดับน้ำทะเล สำหรับด้านหน้าจะมีวัดไซรเตน (สถูปทิเบต) ซึ่งเป็นสีขาวขนาดใหญ่ ใช้สำหรับบรรจุสรีระธาตุของพระลามะอีกด้วย
คืนนี้พักที่ Rongbukgbuk
Day 5 : EBC – Paiku Lake – Saga
ชมความงดงามอันน่าอัศจรรย์ของยอดเขาทรงสามเหลี่ยมที่เด่นตระหง่านอยู่ช่องเขา หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เอเวอเรสต์” ท้าลมหนาวท่ามกลางหิมะสีขาวโพลนที่ปกคลุมไปทั่วภูเขา
ชม ทะเลสาบไพกู Peiku Lake ทะเลสาปรูปร่างคล้ายคลึงกับปาท่องโก๋ ล้อมรอบไปด้วยทิวเขาสูงตระหง่านที่มีความสูงราว 5700-6000 เมตร ส่วนหัวของทะเลสาบหันไปทางทิศเหนือ และตอนท้ายของทะเลซึ่งเป็นทางทิศใต้นั้น มีลักษณะเป็นแอ่งขนาดใหญ่กว่าตอนกลางของทะเลที่มีลักษณะยาวคอด จึงมีรูปร่างเหมือนกับปาท่องโก๋นั่นเอง โดยตัังอยู่บนความสูง 4,591 เมตร ทางตอนใต้ของแม่น้ำยาร์ลุงซางโป หรือแม่น้ำพรมบุตร ส่วนน้ำในทะเลสาบนั้นเป็นน้ำที่ไหลมาจากธารน้ำแข็งทางตอนเหนือเรื่อยมาจนถึงตอนใต้ และไม่มีน้ำไหลออกมาหลายพันปีแล้ว จึงทำให้มีสภาพเป็นน้ำกร่อย โดยรอบของทะเลสาบอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติและสัตว์ป่าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ม้าป่า ลาป่า เป็นต้น
เดินทางไปยัง เมือง Saga (เดินทางประมาณ 8 ชม.) โดยระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติที่สรรค์สร้างได้อย่างลงตัว เต็มไปด้วยเนินเขาที่สูงและกว้างใหญ่ มีทุ่งหญ้าขึ้นเป็นหย่อมๆ และทุ่งหญ้ากว้างในที่ลุ่มน้ำขัง ชมวิถีชีวิตของสัตว์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจามรี แพะ แกะ ที่ออกหากินกลางทุ่งและริมแม่น้ำ จนกระทั่งถึงช่วงเย็นๆจะเดินทางถึงเมืองซาก้า
คืนนี้พักที่ Saga
Day 6 : Saga – Zhongba – Lake Manasarovar – Chiu Gompa
Pulan
เดินทางไปยังจงป้า (ประมาณ 4 ชม.)
ทะเลสาบมานัสโรวาร์ หรือ ทะเลสาบมาปาม (Mapham Yum-Tso) หมายถึง ทะเลสาบแห่งชัยชนะ ลักษณะของน้ำทะเลสาบที่นี่จะเป็นสีฟ้า เต็มไปด้วยความตระการตาของทุ่งหญ้าสีแดง และเทือกเขาหิมะกูร์ล่ามันดาทาที่โดดเด่นเป็นฉากอยู่เบื้องหน้า ทะเลสาบมานัสโรวาร์ ได้ปรากฎ ในคัมภีร์ปุราณะ (Puranas) ของศาสนาฮินดู มีใจความว่า ก่อนที่ทะเลสาบแห่งนี้จะมีขึ้นบนโลก แต่เดิมทะเลสาบมานัสโรวาร์ ได้ถูกสร้างขึ้นมาอยู่ในหัวใจของพระพรหมก่อน ทำให้น้ำในทะเลสาบมีน้ำที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และความศักดิ์สิทธิ์ เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ดื่มกินจะเทียบเท่ากับการล้างบาปนับร้อยชาติ ทำให้เมื่อเสียชีวิตจากโลกมนุษย์แล้ว ผู้นั้นก็จะกลับเข้าสู่ดินแดนของพระศิวะ และความพิเศษของการเดินทางในฤดูร้อนเพื่อไปยังเขาไกรลาสนั้น ท่านจะได้พบเห็นนักแสวงบุญผู้เต็มไปด้วยความศรัทธานับพันคนร่วมกันสวดมนต์และเดินตามเส้นทางของการแสวงบุญรอบๆทะเลสาบ ซึ่งถือเป็นการทำพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของทางศาสนาฮินดู
คืนนี้พักที่ Pulan
Day 7 : Pulan – Darchen – Mt.Kailash
เดินทางไปยังเมือง Darchen ชุมชนขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในอำเภอผู่หราง ซึ่งถือเป็นด่านหน้าสำหรับผู้จาริกแสวงบุญชาวบอน พุทธ ฮินดู และเชน
ภูเขาไกรลาส หรือ กังรินโปเซ (ไกรลาส” หรือ “ไกลาส” เป็นคำวิเศษณ์ในภาษาสันสกฤต แปลว่า “สีเงินยวง”) เป็นยอดเขาแห่งหนึ่งในเทือกเขาหิมาลัย ที่ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างยาวนาน โดยมีอายุมากกว่า 50 ล้านปีมาแล้ว อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาต่างๆมาตั้งแต่สมัยโบราณที่ถือกำเนิดในประเทศอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธ ฮินดู เซน และบองของชาวทิเบตโบราณ เพราะแต่ละศาสนามีความเชื่อว่า ภูเขาไกรลาสแห่งนี้เป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาลและเชื่อว่า เขาไกรลาส คือ เขาพระสุเมรุ ตามหลักความเชื่อจักรวาลในพระพุทธศาสนา ขณะเดียวกันเขาไกรลาสยังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายสำคัญต่างๆในทวีปเอเซีย นอกจากนี้ภูเขาไกรลาส ยังมีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 22,020 ฟุต เป็นภูเขาสูงลำดับที่ 32 ของโลก และสูงเป็นลำดับที่ 19 ของเทือกเขาหิมาลัย ที่โอบล้อมภูเขาไกรลาสไว้อย่างสวยงาม ระหว่างนี้ ท่านจะได้ชมทิวแถวของผู้ศรัทธาจากหลากหลายศาสนา ที่เดินทางมาจาริกแสวงบุญ ด้วยการเดินเท้าอย่างสำรวมไปยังจุดสักการะของแต่ละศาสนา เดินผ่านประตู Star Gate ที่ชาวทิเบตมีความเชื่อมาแต่เดิมว่า หากใครได้เดินผ่านประตูแห่งนี้แล้วจะได้ไปสู่ภพภูมิใหม่ที่ดี
คืนนี้พักแถวๆเขาไกรลาส
Day 8 : Trek day one : Chiu Gompa temple – Langbona Monastery Hor Qu (6-8 hrs trekking)
รับประทานอาหารเช้าจากที่พัก วันนี้เริ่มต้นเดินแสวงบุญรอบภูเขาไกรลาส จาก ตาเชน การเดินแสวงบุญรอบภูเขาไกรลาส ชาวทิเบตเรียกว่า โคร่า (Kora) เริ่มจากที่ตาเชน ระยะทางในการเดินทั้งงหมด ประมาณ 52 กิโลเมตร การเดินทางไปเขาไกลลาสมักจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ สามวัน และหยุดที่โคร่า ตาเชน คือการเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของการเดินป่าและชมภูเขาศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ออกจาก ตาเชน แล้ว มีหุบเขาที่เรียกว่า Dsarshungเป็นที่พัก ช้า ม้า วัว ของป่าและรอเพื่อส่งต่อลูกค้า คุณสามารถเดินไปตามหน้าผาที่สวยงามและมุ่งหน้าไปทาง ดีราปุค ตลอดการเดินทางจะมีเต้นท์เรียงรายซึ่งทุกท่านสามารถ ลองเครื่องดื่มหรือลิ้มลองรสโยเกิร์ตของผู้คนท้องถิ่นเหล่านั้น หลังจากนั้นค่อยๆขึ้นไปยังหุบเขาและจะใช้เวลาอย่างน้อยสองชั่วโมงถึงจะถึง วัดดีราปุค
Day 9 : Trek day two – Drirapuk to Dzultripuk (18km)
รับประทานอาหารเช้าจากที่พักวันนี้ ก่อนเริ่มเดินโครา ตามเส้นทางภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ เขาไกรลาสกันต่อ โดยในระหว่างทางการเดิน ท่านจะได้พบเจอนักแสวงบุญที่เดินทางมาจากทิเบต อินเดีย เนปาล พระลามะมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ริมทะเลสาบ การเดินโคร่ารอบภูเขาไกรลาสนั้นเป็นถือเป็นกุศลยิ่งใหญ่ของผู้คนหลายศาสนา ทั้งเด็กเล็กหนุ่มสาวคนชราต่างก็เดินหมุนกงล้อมนต์ หลายคนเดินสลับกับน้อมตัวลงกับพื้นดินเพื่อกราบอัษฎางคประดิษฐ์วนรอบภูเขาไกรลาส
(อัษฎางคประดิษฐ์คือ การกราบโดยให้อวัยวะ8 จุดจรดพื้น หน้าผาก 1 ฝ่ามือ 2 หน้าอก 2 เข่า 2 และปลายเท้า 2 บางตำราบอกว่า มือ 2 หน้าอก 1 หน้าผาก 1 ตา 2 คอ 1 กลางหลัง 1 หรืออีกนัยหนึ่งว่า มือทั้ง 2 หน้าอก 1 หน้าผาก 1 เข่า 1 เท้า 1 วาจา 1 ใจ 1 รวมเป็น 8
Day 10 : Trek day three – Dzultripuk to Darchen (14km) – Guge Ruin
ช่วงสุดท้ายของการเดินแสงบุญ เราจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อเดินมาให้ถึง ตาเชน หลังจากนั้น ทานอาหารกลางวันและ ออกเดินทางต่อเมืองโบราณ กู่เก๋อ
Day 11 : Zanda – Guge Kingdom – Tholing monastery – Gar
เมือง กู่เก๋อ เป็นดินแดนที่ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอะรีหรือทิเบตตะวันตกในปัจจุบัน บริเวณใกล้กับชายแดนจีน-อินเดีย มีเมืองหลวงเดิมชื่อซานด้า (Zanda) มีที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสัตเลจหรือแม่น้ำแดง ชมความสวยงามแปลกตาของภูมิประเทศที่ปรากฎอยู่โดยรอบเมืองซานด้า ที่มีลักษณะเป็นโตรกผาสูง สาเหตุเนื่องมาจากน้ำกัดเซาะหินทรายแดงเป็นเวลานานจนกลายเป็นร่องลึก แต่เดิมมีการสันนิษฐานว่า พื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่มาก่อน แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเทือกเขาหิมาลัยได้ยกตัวสูงขึ้น จึงทำให้บริเวณนี้ต้องถูกยกตัวสูงตามไปด้วย น้ำในทะเลสาบจึงแห้งขอดไปในที่สุด ขณะที่พื้นดินที่อยู่ก้นทะเลสาบได้ถูกน้ำและลมกัดเซาะเป็นเวลานานนับล้านปี จึงเกิดภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นโตรกผาสูง คล้ายคลังกับแกรนด์แคนยอนของอเมริกานั่นเอง
วัดโถหลิง Tholing Monastery อยู่ในเมืองซานด้า เป็นพุทธสถานที่สำคัญที่สุดของทิเบตตะวันตก คำว่า Tholing ภาษาธิเบตแปลว่าบินอยู่บนฟ้าตลอดกาล ในวัดมีภาพจิตกรรมฝาผนังอันวิจิตรงดงามด้วยโทนสีอ่อนต่างจากภาพอื่นๆที่ใช้สีฉูดฉาดเน้นสีแดงเป็นหลัก ยังมีภาพเล่าพระราชประวัติของพระพุทธเจ้าตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพาน จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังซื่อชวนเหก
Day 12 : Ngari – Lhaza – Bangkok
เดินทางไปยังสนามบิน เพื่อเดินทางกลับ ลาซา เหินฟ้าสู่ลาซา โดยสายการบิน TIBET AIRLINES เที่ยวบินที่ TV 9808 เดินทางถึงลาซา
จากนั้นนำท่านต่อเครื่องกลับกรุงเทพฯ เหินฟ้ากลับสู่คุนหมิง โดยสายการบิน CHINA EASTERN AIRLINE เที่ยวบินที่ MU 5828 เดินทางถึงสนามบินคุนหมิง รอต่อเครื่องเพื่อกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน CHINA EASTERN AIRLINE เที่ยวบินที่ MU2583 เวลา 23.20 น.
00.50 น. ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
ดูรูปรีวิวทัวร์ทิเบต ที่เราจัด >> https://www.painaima.com/trip-review/tibet-kailash/
ดูคลิป “ไกรลาส…อยู่ที่กลางใจ” >> https://www.youtube.com/watch?v=pvm7dWpSMJ0