ทัวร์นอร์เวย์
Day 1 : Bangkok – Murmansk
09.30 น. ทัวร์นอร์เวย์
นัดพบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประตู 7 เคาน์เตอร์ N ทีมงานอำนวยความสะดวกเช็คอินสายการบิน Aeroflot Airlines
12.35 น. ทัวร์นอร์เวย์
ออกเดินทางโดย Aeroflot Airlines เที่ยวบินที่ SU273 แวะเปลี่ยนเครื่องที่มอสโคว เวลา 18.50 น. แวะเปลี่ยนเครื่องที่มอสโคว ต่อเครื่องสู่ Murmansk เวลา 22.25 น.
01.05 น. ทัวร์นอร์เวย์
ถึงสนามบินมูรมันสค์ เมืองในดินแดน Arctic Circle หรือเขตในวงกลมละติจูด (เส้นแนวนอนในแผนที่โลก) ที่อยู่เหนือ66 องศา มีปรากฏการณ์พิเศษคือพระอาทิตย์ไม่ตกขอบฟ้าในฤดูร้อน หรือ ไม่โผล่พ้นขอบฟ้าในฤดูหนาว จากนั้นนำท่านเข้าพักที่โรงแรม
คืนนี้เราจะพักกันที่เมือง Murmansk
Day 2 : Murmansk – Teriberka
หลังอาหารเช้า นำท่านเดินทางเข้าสู่เมือง เทอริเบอก้า (Teriberka) ซึ่งเป็นเมืองชนบทของประเทศรัสเซีย ตั้งอยู่ในแคว้นมูรมันสค์ แถบชายผั่งทะเลบาร์เร้นทส์ (Barents Sea) สัมผัสกับความหนาวเย็นท่ามกลางภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและธรรมชาติอันสวยงาม นำท่านชมเมืองเก่าอันมีมนต์เสน่ห์ตรึงใจ เพราะบ้านแต่ละหลังได้สร้างไว้อย่างเรียบง่ายแต่คงความเป็นเอกลักษณ์สไตล์รัสเซีย
เที่ยวชมบริเวณ อ่าวเทอริเบอก้า ซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบ บริเวณนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังของรัสเซีย เรื่อง Leviathan
เยี่ยมชมวิถีชีวิตของ หมู่บ้านชาวประมง ที่น่าประทับใจอีกด้วย รับประทานอาหารเที่ยงแบบปิคนิค พาท่านเที่ยวชมเมืองเทอริเบอก้า จนได้เวลาอันสมควร จึงนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองมูรมันสค์ *** หากมีหิมะตกหนัก จนเดินทางไม่ได้ เราจะขอเปลี่ยนโปรแกรมเพื่อความปลอดภัย***
นำท่านล่าแสงออโรร่า หรือแสงเหนือ ปรากฏการณ์ที่เกิดในฤดูหนาว มองเห็นได้เฉพาะพื้นที่เหนือเส้น รุ้ง 66
ในวันที่ฟ้ามืดสนิทไร้แสงและเมฆรบกวน เราจะเห็นกลุ่มหมอกสีเขียวที่เกิดจากปฏิกริยาระหว่างสนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ กับอนุภาคที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ
คืนนี้เราจะพักกันที่เมือง Murmansk ทัวร์นอร์เวย์
Day 3 : Murmansk – Sami Village – Reindeer Farm -Husky Safari
พาชม หมู่บ้านซามี่ (Sami Village) หมู่บ้านเล็กๆของชนเผ่าพื้นเมืองที่มีอาชีพล่าสัตว์ โดยลักษณะของหมู่บ้านได้สร้างคล้ายกับพิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนรู้วิถีชีวิตชนเผ่า Majestic Idols ประติมากรรมอันเป็นตัวแทนของธรรมชาติ ได้แก่ ไฟ โลก น้ำ อากาศ โดยมีความเชื่อว่าหากมาอธิษฐานขอพรกับประติมากรรมชิ้นนี้ จะทำให้เกิดความโชคดีแก่ตนเอง
ฟาร์มกวางเรนเดียร์ ภายในหมู่บ้านจะเห็นชนเผ่าเลี้ยงกวางเรนเดียร์ไว้สำหรับลากเลื่อน และมีสัตว์อื่นๆอีกมากเช่น สุนัขจิ้งจอก กระต่ายป่า สัมผัสกับความน่ารักแสนรู้ของสุนัขลากเลื่อน ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหิมะอันขาวโพลน
Husky Farm ให้ท่านได้ชมความน่ารักของสุนัขแสนรู้ ฮัสกี้ เป็นสุนัขพันธุ์ฉลาดเฉลียวและแข็งแรงมาก โดยอาศัยอยู่ในเขตหนาว ซึ่งชาวแลปป์ได้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบนน้ำแข็งหรือหิมะ ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์นั่งรถเทียมสุนัขฮัสกี้ลากเลื่อน (Husky Sledding)
ชมอนุสาวรีย์อโลชา (Alyosha Memorial) ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเหล่าทหารกองทัพของโซเวียตที่สามารถตรึงกองกำลังเพื่อหยุดยั้งการรุกคืบจากกองทัพเยอรมัน เป็นรูปปั้นขนาดสูงถึง 35.5 เมตร สูงเป็นอันดับสองของรัสเซียและมีน้ำหนักกว่า 5,000 ตัน
นำท่านออกล่าแสงเหนือ หรือแสงเหนือ ปรากฏการณ์ที่เกิดในฤดูหนาว มองเห็นได้เฉพาะพื้นที่เหนือเส้น รุ้ง 66
ในวันที่ฟ้ามืดสนิทไร้แสงและเมฆรบกวน เราจะเห็นกลุ่มหมอกสีเขียวที่เกิดจากปฏิกริยาระหว่างสนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ กับอนุภาคที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ
กลับเข้าที่พักกันที่เมือง Murmansk
Day 4 : Murmansk – Ivalo – Glass Igloo
หลังอาหารเช้า เดินทางข้ามพรมแดน รัสเซียฟินแลนด์ เส้นทางที่เชื่อมต่อเมืองในดินแดน arctic เข้าไว้ด้วยกัน เมื่อข้ามมาสู่ฟินแลนด์แล้ว เราจะเดินทางสู่ เมือง ซาลิเซก้า (Saariselka) เมืองท่องเที่ยวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฟินแลนด์มีชื่อเสียงอย่างมาก
พักผ่อนเอาแรง รอคอยสัญญาณปลุกเพื่อชมแสงเหนือภายในห้องของท่าน ที่ หมู่บ้านอิกลูแคคสลอตทาเนน (IGLOO VILLAGE KAKSLAUTTANEN) ตั้งอยู่เหนือเส้นเขตขั้วโลกเหนือเขต แลปแลนด์ (LAPLAND) ของประเทศฟินแลนด์ ท่ามกลางความหนาวเย็นและผืนหิมะที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ กับป่าสนสีขาวที่ท่านจะต้องประทับใจไม่มีวันลืม พักผ่อนนอนรอคอยแสงเหนือในบ้านเรือนกระจกที่สร้างด้วยเทคโนโลยีพิเศษ ทำให้รักษาอุณหภูมิภายในห้องไว้ได้ และไม่ถูกน้ำแข็งเกาะแม้ว่าอุณหภูมิภายนอกจะติดลบก็ตาม
คืนนี้ล่าแสงเหนือกันใน Glass Igloo
Day 5 : Rovaniemi – Santa Claus Village
เดินทางสู่ Rovaniemi เมืองหลวงและเมืองเศรษกิจหลักของฟินแลนด์ตอนเหนือ (แลปแลนด์) เป็นเมืองที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆในยุโรปด้วยกัน อยู่ห่างจาก Arctic circle 6 กิโลเมตร
เยี่ยมชม หมู่บ้านซานตาคลอส SANTA CLAUS VILLAGE ตั้งอยู่บนเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล ภายในหมู่บ้านมีที่ทำการไปรษณีย์ สำหรับท่านที่ต้องการส่งของขวัญไปยังคนที่ท่านรัก และยังมีร้านขายของที่ระลึก ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก หรือถ่ายรูปกับคุณลุงซานตาที่ใจดีเป็นที่ระลึกในการมาเยือน อิสระให้ท่านเดินเล่นเที่ยวชมในหมู่บ้าซานตาคลอส
ที่นี่ ที่ทำการไปรษณีย์สูงที่สุดในโลก ลุง Santa จะทำการคัดจดหมายส่งถึงปลายทาง หากส่งในตู้ไปรษณีย์สีแดง โปสการ์ดหรือจดหมายจะส่งถึงในวันคริสต์มาสของปีนั้น แต่หากอยากได้เร็วก็ส่งตู้สีส้ม จดหมายจะถูกจัดส่งเลย
คืนนี้เราจะพักกันที่เมือง Rovaniemi
*หากอากาศเปิดเราจะพาออกล่าแสงเหนือ
Day 6 : Rovaniemi – Kiruna – Abisko
วันนี้เดินทางไกลสักหน่อย ข้ามพรมแดนฟินแลนด์ผ่านสู่สวีเดน เดินทางสู่ Kiruna เมืองที่อยู่เหนือที่สุดในประเทศสวีเดนที่มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 18000 คน ในอดีตเป็นเมืองที่ผลิตแร่เหล็กที่มีชื่อเสียงของประเทศ
แวะชม Icehotel Jukkasjarvi โรงแรมน้ำแข็งแห่งแรกของโลกและใหญ่ที่สุดของโลกด้วยเช่นกัน เป็นผลงานการแกะสลักของช่างแกะสลักน้ำแข็งระดับโลก เต็มไปด้วยน้ำแข็งแกะสลักที่งดงาม
ชม โบสถ์ Kiruna Church โบสถ์เมืองคิรูน่า ซึ่งเป็นโบสถ์ไม้สักทั้งหลัง และสมบูรณ์ที่สุดในสวีเดนตอนเหนือ
เดินทางสู่ที่พักที่ Abisko
*ที่พักที่ Abisko มีจำกัดและมีห้องขนาดเล็กสักหน่อย เนื่องจากเป็นเขตชนบท
**หากฟ้าเปิดเราจะพาท่านออกล่าแสงเหนือ
Day 7 : Kiruna – Svolvær – Henningsvaer
เดินทางข้ามพรมแดนสวีเดนนอร์เวย์ไปยังเมือง Svolvær (ประมาณ 3 ชม.) เมืองหลวงแห่ง Lofoten และเป็นเมืองที่มีประวัติยาวนานถึงการตั้งถิ่นฐานในเขต Nordland มีการติดต่อซื้อขาย กับโลกภายนอก รวมถึงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของหมู่เกาะ Lofoten อีกด้วย อิสระพาท่านเดินเล่นในตัวเมือง
เดินทางต่อสู่เมือง Henningsvaer เป็นเมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคง ประมงกันอย่างคึกคัก เป็นอีกเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมาแวะเวียน และยังได้ชื่อว่าเป็น VENICE OF LOFOTEN ซึ่งจุดเด่นของเมืองนี้คือบ้านชาวประมงสีแดง (RORBUER) ตั้งอยู่ริมทะเลมีอ่าวจอดเรือประมงเรียงรายอยู่มากมายเป็นภาพที่สวยงามตัดกับวิวภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาวถือเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อย
คืนนี้เราจะพักกันที่เมือง Svolvaer
**หากฟ้าเปิดเราจะพาท่านออกล่าแสงเหนือ
Day 8 : Fredvang Bridge – Hamnoy – Sakrisøy – Reine
เดินทางสู่หมู่บ้าน Fredvang ชมสะพาน Fredvang ที่มีลักษณะเฉพาะตัวของนอร์เวย์ และชมหาด Sandbotnen
ชม Hamnoy ซึ่งมีอาชีพหลักๆ คือ การเลี้ยงปลาแซลมอนและปลาคอดในฟาร์ม เดิมจะเชื่อมกับหมู่บ้าน Reine โดยเรือข้ามฟาก แต่ปัจจุบันมีสะพานเป็นทางเชื่อม บนเส้นทาง E10 ที่นี่เป้นจุก highlight ที่เมื่อพูดถึง Lofoten เราจะต้องมาที่ตรงนี้
ชม Sakrisøy หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีบ้านสีสันแตกต่างจากหมู่บ้านอื่น ตั้งอยู่ที่เชิงเขา Olstind ซึ่งเป็นเทือกเขาที่สำคัญแห่งหนึ่งของ Lofoten ที่นี่ครอบครัวของ Gylseth ได้ทำอาหารทะเลที่มีคุณภาพสูงมาเกือบ 130 ปีแล้ว
หมู่บ้าน Reine หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศนอร์เวย์ ท่านจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของหมู่บ้านชาวประมง จะเห็นกระท่อมชาวประมงสีแดง และสีขาวที่โอบล้อมด้วยชายฝั่งและยอดเขา
คืนนี้เราจะพักกันที่ Reine
*ที่พักแบบ roubuer เป็นลักษณะบ้านเก่าของชาวประมง ดัดแปลงเป็น apartment
*หากอากาศเปิดพาออกล่าแสงเหนือ
Day 9 : Å village – Fishing village Museum -Nusfjord
ชมเมือง Å เมืองที่อยู่ปลายสุดของถนนสาย E10 ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงนอร์เวย์
เข้าชม Norwegian Fisherman Village ซึ่งท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะลอฟโฟเทน ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 250 ปี ในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีสถานที่ต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม อาทิ โรงงานผลิตน้ำมันตับปลาคอด ร้านขายเบเกอรี่ และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ (หมายเหตุ : ร้านค้าและโรงงานต่างๆอาจปิดทำการเนื่องจากวันหยุดเทศกาล โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
เดินทางสู่หมู่บ้านนุสฟยอร์ด (Nusfjord) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่มีชื่อเดียวกับฟยอร์ดอันงดงาม เพียงแค่ได้เดินเที่ยวชมหมู่บ้านแห่งนี้ก็คุ้มค่ากับการเดินทางมาเยือนแล้ว
คืนนี้เราจะพักกันที่ Reine
*หากอากาศเปิดพาออกล่าแสงเหนือ
Day 10 : Haukland Beach – Uttakleiv Beach – Narvik
ชมหาด Haukland Beach เป็นอีกหาดยอดนิยม เป็นทั้งจุดถ่ายแสงเหนือ จุดถ่าย Seascape และเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินเขา เช่น Mannen และ Himmeltinden มีหาดทรายขาวด้วยหิมะ น้ำทะเลสีฟ้าคริสตัล
ชมหาด Uttakleiv Beach ซึ่งเป็นหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดใน Lofoten เป็นหาดที่มีโขดหินน้อยใหญ่เรียงรายเป็นรูปร่างต่างๆ บ้างว่าเปรียบเหมือนไข่ไดโนเสาร์ก็มี
ชมเมือง Kabelvag ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่อีกที่หนึ่ง พาท่านเดินเล่นรอบเมือง ที่มีโบสถ์ประจำเมืองต้อนรับตั้งแต่ปากทางเข้าเมืองที่แสนเงียบสงบ
คืนนี้เราจะพักกันที่เมือง Narvik
Day 11 : Narvik – Tromso – Arctic Cathedral – Storsteinen
นำท่านเดินทางไปยัง เมืองทรอมโซ (TROMSO) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์ อีกทั้งยังเป็นเมืองใหญ่ที่สุด ในเขตอาร์คติกเซอร์เคิลอีกด้วย
ชมมหาวิหารทรอมโซ (Tromso Cathedral) มหาวิหารไม้ที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความเก่าแก่ที่สุด และยังเป็นหนึ่งในโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ โดยมหาวิหารถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1861 ในแบบสไตล์กอธิคที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่ง
ชม มหาวิหารอาร์คติก (ARCTIC CATHEDRAL) มหาวิหารที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างขึ้นในปี 1965 มีภาพประดับกระจกใหญ่ที่สุดในยุโรป จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง ทรอมโซตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่าน นั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ ยอดเขาสโตรสไตเนิน (STORSTEINEN MOUNTAIN) เป็นยอดเขาสูงที่มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองทรอมโซและบริเวณใกล้เคียงที่มีลักษณะเป็นเกาะใหญ่แยกจากกันโดยมีร่องน้ำซึ่ง เกิดจากการกัดเซาะตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง กลายเป็นฟยอร์ดอยู่โดยรอบ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจของเมืองทรอมโซจากมุมสูง
คืนนี้เราจะพักกันที่เมือง Tromso
*หากอากาศเปิดพาออกล่าแสงเหนือ
Day 12 : Fjord Cruise & Whale Safari – Storgata
พาชม Fjord Cruise & Whale Safari ล่องเรือในอ่าว Tromso
ที่อยู่ในเขต Arctic polar ชมภูเขาสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีเข้ม หากโชคดี จะพบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่อาจจะแวะเวียนชายฝั่งด้านนอกของเมืองทรอมโซ ปลาวาฬที่พบบ่อยที่สุดคือวาฬเพชรฆาต วาฬหลังค่อม และเหล่าปลาโลมาบ้างเป็นบางคราว
เดินเล่น Storgata ถนนคนเดินสายหลักใน Tromso ที่นี่มีร้านค้าดีๆมากมายคาเฟ่และร้านอาหารมากมาย Storgata มีชีวิตชีวามากที่สุดในตัวเมืองทรอมโซ สินค้าพื้นเมือง และเครื่องกันหนาวแบรนด์ท้องถิ่น ตลอดจนซุปเปอร์มาเก็ต ร้าน ขายของที่ระลึก รวมตัวกันอยู่บนถนนเส้นนี้
คืนนี้เราจะพักกันที่เมือง Tromso
Day 13 : Tromso – Oslo
รับประทานอาหารเช้าที่ โรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังสนามบิน เพื่อเดินทางกลับออสโล โดยสายการบิน Scandinavian Airlines เที่ยวบินที่ SK4409 เวลา 08.35-10.30 น.
***เวลาบินอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับฤดูกาล***
เตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน Aeroflot Airlines เที่ยวบินที่ SU2175 เวลา 13.05 แวะเปลี่ยนเครื่องที่มอสโคว เวลา 17.55 น.
21.30 น. เดินทางต่อสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Aeroflot Airlines เที่ยวบินที่ SU272
Day 14 : Arrive Bangkok
10.40 น.
เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
ดูภาพรีวิวทัวร์นอร์เวย์ >> https://www.painaima.com/trip-review/norway-lofoten/
ดูภาพสวยๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://500px.com/search?q=lofoten&type=photos&sort=relevance