ทัวร์เนปาล
Day 1 : Bangkok – Katmandu
09.00 น. ทัวร์เนปาล
นัดพบกันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ทีมงานอำนวยความสะดวกเช็คอิน สายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG319 ออกเดินทางเวลา 10.15 บินสู่กาฐมาณฑุประเทศเนปาล
12.25 น.
ถึงสนามบินตรีภูวัน ประเทศเนปาล ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋า แลกเงิน และเดินทางสู่ตัวเมืองกาฐมาณฑุ (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)
นำชม จัตุรัสภักตะปุร์ (Bhaktapur Durbar Square) ที่ตั้งของหมู่พระราชวัง วิหารและสิ่งก่อสร้างต่างๆในศิลปะสกุลช่างเนวารีแท้
พิพิธภัณฑ์ปะฏัน (Patan Museum) พิพิธภัณฑ์นี้อยู่ภายในบริเวณจัตุรัสปะฏัน ดูร์บาร์เป็นเขตพระราชทานชั้นในของพระราชวังเก่ามีชื่อเสียงทางด้านรูปปั้นทองเหลือง รวมทั้งศาสนวัตถุทั้งหลาย โดยเฉพาะพระราชบัลลังก์กษัตริย์ปะฏัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชียเลยทีเดียว เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30-16.30 น. โดยจะปิดเพียง 3 วันในช่วงเทศกาลทัศอิน และปิดอีก 3 วันในช่วงเทศกาลติหาร์
ชมพระราชวัง 55 พระแกล (The Palace of 55 Windows) และสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 เป็นพระราชวังที่มีหน้าต่าง 55 บานอยู่บนกำแพงอิฐ มีความโดดเด่นในด้านการแกะสลักไม้ ประตูทองคำ (Golden Gate) เป็นทางเข้านำไปสู่ลานของพระราชวัง 55 พระแกล แกะสลักเป็นลวดลายของเหล่าเทพและอสูร
วัดไนยาโตโปละ (Nyatapola Temple) เป็นมณฑปที่สูงที่สุดในเนปาล นอกจากนี้ภายในวัดยังมีวิหารหลังคา 5 ชั้นซ้อน ตามบันไดทางขึ้นทั้งสองข้างจะมีประติมากรรมเหล่าเทวดาคอยปกป้องรักษาอยู่
หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา (Potters Square) ชมวิธีการปั้นเครื่องปั้นดินเผาตามแบบฉบับของคนท้องถิ่น และสามารถเลือกซื้อของที่ระลึกราคาถูกที่ทำจากดินเผาได้ในย่านนี้
ออกเดินทางสู่ นากาก็อต จุดชมวิวที่สวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเนปาล ในวันอากาศดี เราสามารถเห็น ยอดเขาเอเวอเรสต์ได้จากที่นี่
คืนนี้พักที่ นากากอต รอคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นหลังเอเวอเรสต์ในวันถัดไป
พักที่ Hotel Country Villa หรือเทียบเท่า
Day 2 : Nagarkot – Kathmandu Sightseeing
เดินทางกลับสู่ กาฐมาณฑุ ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,336 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่รวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมของเนปาลเอาไว้มากมายจากการที่เป็นแหล่งวัฒนธรรมเนวารีโบราณ ซึ่งได้สร้างอารยธรรมที่สำคัญขึ้นบน 3 เมือง ซึ่งได้แก่ กรุงกาฐมาณฑุ ปาทัน และภักตะปุร์ อันโดดเด่นด้านฝีมือแกะรูปสลักหินและโลหะที่ละเอียดอ่อน เสาไม้แกะสลัก และโบสถ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์
เมืองปาทัน เมืองที่สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เมืองแห่งศิลปะและหัตถศิลป์ ผังเมืองปาทันมีรูปทรงคล้ายธรรมจักรในพุทธศาสนา แต่เมื่ออิทธิพลของศาสนาฮินดูแทรกเข้ามาพุทธศาสนาก็ค่อยๆเสื่อมลง ชาวพุทธถูกแบ่งตามชั้นวรรณะตามความเชื่อของศาสนาฮินดูและเริ่มทำพิธีกรรม จัตุรัสปาทัน ตั้งอยู่ใจกลางเมือง จัตุรัสนี้ประกอบด้วยพระราชวังโบราณ
ชม กฤษณะ มัณฑีร์ ที่สร้างด้วยหินแกรนิต และยังเป็นวัดเดียวในเนปาลที่มียอดเจดีย์ 21 ยอดที่ทำจากหินทั้งหมด วัดกุมเภสวอร์ เป็นวัดของพระศิวะ มีหลังคา 5 ชั้น
วัดทอง (Golden Temple) หรือวัดหิรัณยะวรรณะ มหาวิหาร (Hiranya Varna Mahavihan) เป็นวัดในพุทธศาสนา ลักษณะเป็นเจดีย์สูง 3 ชั้นหลังคาทำด้วยแผ่นทองเป็นเส้นยาวลงมาจรดพื้นดินซึ่งสร้างตามความเชื่อที่ว่าจะเป็นเส้นทางที่เดินไปสู่สวรรค์ นอกจากนี้วัดยังประดับตกแต่งด้วยทองเหลืองและทองแดงจนอร่ามเรือง สมกับเป็นวัดเก่าแก่นับพันปีที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองปะฏัน
ชม วัดสวะยัมภูนาถหรือวัดลิง (Swayambhunath) ภายในวัดมีสถูปที่เก่าแก่ที่สุดของเนปาลประดิษฐานอยู่ สันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุประมาณ 2000 ปี ที่ฐานของสถูปทั้ง 4 ด้านจะมีภาพดวงตาเห็นธรรมหรือ Wisdom Eyes ของพระพุทธเจ้า จากมุมบนลานสถูป เราสามารถเห็นตัวเมืองกาฐมาณฑุ เป็นเหมือนจักรวาลเล็กๆที่โอบลอมด้วยขุนเขา เป็นป้อมปราการทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่
กาฐมาณฑุดูร์บาร์สแควร์ (Kathmandu Durbar Square) ประกอบไปด้วยวัดและวังที่เก่าแก่ซึ่งแสดงภาพความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเนปาล เนื่องจากเป็นสถานที่ราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ นอกจากนี้ จัตุรัสแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ในปี พ.ศ. 2522 อีกด้วย
พระราชวังหนุมานโดก้า (Hanuman Dhoka) เป็นอาคารทรงยุโรป สีขาว มีหอสูง 9 ชั้น เรียกกันว่า หอพสันตปุระ ในอดีตใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมของพระมหากษัตริย์
*อยู่ในระหว่างบูรณะจากแผ่นดินไหว
กาฐมณฑป (Kasthamandap) อาคารไม้เก่าแก่ที่สุด และเป็นต้นกำเนิดของชื่อเมืองกาฐมัณฑุ สร้างขึ้นในตอนต้นของศตวรรษที่ 16 จากต้นสาละเพียงต้นเดียว
*อยู่ในระหว่างบูรณะจากแผ่นดินไหว
บ้านกุมารี (Kumari House) เป็นอาคาร 3 ชั้น ทำจากไม้แกะสลัก สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พำนักของเหล่าเทพธิดา ซึ่งเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกมนุษย์
กาฬไภราพ (Kala Bhairab) เป็นรูปสลักขนาดใหญ่ของพระอิศวรปางดุร้าย เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก มักจะใช้ในการตัดสินคดีความโดยจะนำคนที่พูดเท็จมาสาบานต่อหน้ารูปสลักนี้
ตะเลชู (Taleju Temple) วัดประจำองค์พระมหากษัตริย์ เนื่องจากมีความเชื่อว่า เทพตะเลชู คือเทพที่ปกปักรักษาองค์พระมหากษัตริย์และประเทศเนปาล
มานโธกา (Hanuman Statue) รูปปั้นหนุมาน ตั้งอยู่หน้าทางเข้าพระราชวัง ทำหน้าที่เป็นนายทวารพิทักษ์พระราชวัง
คืนนี้พักที่ย่าน Thamel เพื่อให้ท่านได้เดินเล่นช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ พักที่ Hotel Nepali Ghar หรือเทียบเท่า
Day 3 : Kathmandu – Bandipur
เดินทางไป บันดิปูร์ หมู่บ้านท่องเที่ยวเล็กๆ ที่มากไปด้วยเสน่ห์ของประเพณี วัฒนธรรม และวิถีความเป็นอยู่ ตั้งอยู่บนยอดเขาที่่ระดับความสูง 1030 เมตร หมู่บ้านแห่งนี้จะอยู่ห่างจากกรุงกาฐมัณฑุ ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 143 กิโลเมตร (เดินทางประมาณ 5 ชม)
ชมหมู่บ้าน “บันดิปูร์” (Bandipur) หมู่บ้านศักดิ์สิทธิ์ของชาว ฮินดู หมู่บ้านท่องเที่ยวเล็กๆ แต่มากไปด้วยเสน่ห์ของประเพณี วัฒนธรรม และวิถีความเป็นอยู่ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชันบันดิปูร์ แปลเป็นไทยง่ายๆก็คือเมืองบัณฑิต หรือเมืองของผู้รู้ โดยบริเวณรอบๆหมู่บ้านนั้นโดดเด่นไปด้วยทัศนียภาพที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและม่านหมอก รวมไปถึงทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาหิมาลัยที่สามารถมองเห็นจากตัวหมู่บ้านได้อย่างชัดเจน
พักที่ Bandipur Mountain Resort หรือเทียบเท่า
Day 4 : Bandipur – Pokhara
นำท่านเดินทางสู่ โพครา ระหว่างทางท่านจะได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามและวิถีชีวิตของชาวชนบทในประเทศเนปาลเส้นทางสายนี้มีชื่อเสียงมากในด้านความงดงามทางธรรมชาติ “หุบเขาโภครา” สูงกว่า ระดับน้ำทะเล 900 เมตร และโอบล้อมไปด้วยทิวเขาและป่าที่เขียวขจีเป็นทิวทัศน์ที่งดงามที่สุด โดยมีไฮไลท์คือ เทือกเขาอานาปุระ (Annapur na) และยอดเขาหางปลามัจฉาปูร์ชเร (Machhapuchhre) ที่สูงตระหง่านเสียดฟ้ากว่า 8,000 เมตรอย่างสวยงาม (เดินทางประมาณ 3 ชม)
ถึงเมือง โพครา เมืองชายแดนติดกับประเทศอินเดีย เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับสองรองจากกาฐมาณฑุ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 900 เมตร มองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของยอดเขา 5 ยอด มีทิวทัศน์ที่มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนใคร อีกทั้งเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับเส้นทางพิเศษหลาย ๆ เส้นทางของนักผจญภัยและนักปีนเขา
จากนั้นเดินทางไปยัง ชุมชนผู้ลี้ภัยชาวทิเบต ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล
ชม น้ำตกเดวี่ น้ำตกที่ตั้งชื่อตามเด็กชายเทวีที่มาเสียชีวิตพร้อมคู่รัก น้ำตกแห่งนี้แปลกกว่าที่อื่นตรงที่ต้องชะโงกหน้าก้มลงไปดู เพราะเป็นน้ำตกที่ทิ้งตัวลงจากลำธารลงสู่ช่องเขาเบื้องล่างลึกลงไปกว่า 100 เมตร นับว่าเป็นน้ำตกที่มีความลึกมาก
ล่องเรือชมความงามของ ทะเลสาบเฟวา ที่ใสดังกระจกเงา เห็นภาพสะท้อนน้ำ ของเทือกเขาอันนาปูระนะ และยอดเขาหางปลา ที่ตั้งโดดเด่นอยู่เบื้องหน้า ตรงกลางทะเลสาบเป็นที่ตั้งของ วัดบาลาฮี วัดในศาสนาฮินดู อันเป็นที่นับถือทั่วไปของชาวเนปาล
พักที่ Hotel Da Yatra หรือเทียบเท่า
Day 5 : Pokhara – Sarangkot – Kathmandu
พาท่านไปชมสุดยอดความงามแห่งโพครา นั่นคือการได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ จุดชมวิวของ ยอดเขาสรังกอต โดยพระอาทิตย์จะขึ้นที่ขอบเทือกเขาอันนาปูระนะ ที่ตั้งขวางหน้าท่านอยู่แบบพาโนรามา แสงแดดสีทองเริ่มทาบลงบนยอดเขาหางปลา มัจฉาปูร์ชเร ซึ่งเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นวันใหม่ของชาวบ้าน จากนั้นเดินทางไปยัง ชุมชนชาวทิเบต ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล
12.10 น.
เหินฟ้ากลับสู่เมืองกาฐมาณฑุ โดยสายการบิน Buddha Air เที่ยวบินที่ U4602 (12.10-12.35)
อิสระชอปปิ้งย่านทาเมล แหล่งรวมร้านค้า ร้านขายของ มีสินค้าให้เลือกหลากหลายชนิด เช่น อุปกรณ์เทรคกิ้ง ผ้าพื้นเมือง ของฝาก ฯลฯ
พักที่โรงแรม Hotel Nepali Ghar หรือเทียบเท่า
Day 6 : Kathmandu – Bangkok
Option : ชมยอดเขาเอเวอร์เรสอย่างใกล้ชิดโดย Mountain Flight ที่จะพาเราไปเห็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกด้วยสายตาตนเอง
(ไม่รวมในรายการทัวร์ สามารถซื้อเพิ่มได้ 200 USD)
ชม Boudhanath เจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล มีความสูง 38 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 32 เมตร เจดีย์เป็นทรงโอคว่ำ มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม จุดเด่นอยู่ที่ดวงตาเห็นธรรมหรือดวงตาแห่งปัญญา (Wisdom Eyes) ทั้ง 4 ด้าน ซึ่งไม่เหมือนเจดีย์องค์อื่นๆ เป็นการผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธและฮินดู อีกหนึ่งจุดเด่น คือ ธงมนตรา 5 สีที่ชาวเนปาลเอามาแขวนไว้รอบองค์เจดีย์ (ธงมนตราเหล่านี้มักแขวนไว้ตามช่องแนวเขาและอาคารบ้านเรือน เพราะเป็นธงที่ได้รับการจารึกบทสวดมนต์และปลุกเสกแล้ว) เชื่อกันว่าเมื่อลมพัดจะช่วยให้บทสวดมนต์ที่สวดไว้คุ้มครองคนที่ผ่านมา
13.30 น.
เหินฟ้ากลับกรุงเทพ โดยสายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG 320
18.15 น.
ถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
ดูรีวิวทัวร์เนปาล >> https://www.painaima.com/trip-review/nepal/
ดูรูปสวยๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://500px.com/search?q=nepal&type=photos&sort=relevance