ทัวร์แกรนด์อิหร่าน
Day 1 : Bangkok – Tehran
21.00 น.
นัดพบที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 9 แถว S เคาน์เตอร์สายการบินมาฮานแอร์
23.35 น.
ออกเดินทางโดยสายการบินมาฮานแอร์ของอิหร่าน เที่ยวบิน W5-050 ซึ่งจะใช้เวลาบินตรงสู่ท่าอากาศยานอิหม่าม โคมัยนีอินเตอร์เนชันแนล (IKA) นอกกรุงเตหะราน ประมาณ 7 ชั่วโมง
Day 2 : Tehran
03.45 น.
เดินทางถึงท่าอากาศยานอิหม่ามโคมัยนี ซึ่งอยู่ทางใต้ของกรุงเตหะราน เมื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองศุลกากรแล้ว
นำท่านชม Azadi Tower หนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศอิหร่าน อนุสาวรีย์แห่งเสรีภาพ ตั้งอยู่ที่ Azadi Square สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1971 เพื่อรำลึกถึงวันครบรอบปี 2500 ของจักรวรรดิเปอร์เซีย ความโดดเด่นของอนุสาวรีย์นี้ คือการออกแบบอนุสาวรีย์เป็นรูปตัว Y คว่ำ ซึ่งมีการผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบเปอร์เซียหลายๆ ยุคไว้ด้วยกัน อนุสาวรีย์นี้ออกแบบโดย Hossein Amanat สถาปนิกชื่อดังชาวอิหร่าน
ชมพระราชวังกุหลาบ Golestan Palace พระราชวังแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งสถานที่ประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองเตหะราน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยคริสต์วรรษที่ 16 ในราชวงศ์ Safavid สิ่งที่เหลืออยู่จากสมัยนั้น คือ ป้อมสูง (Citadel) สำหรับส่องดูข้าศึกและสถานอาบน้ำแบบเติร์ก องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้ Golestan Palace เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2007 ความสวยงามของสถานที่นี้จนมีผู้ยกย่องว่า “A masterpiece of the Qajar era” ปัจจุบันพระราชวังโกเลสตานยังคงใช้เป็นที่รับรองบุคคลสำคัญ แขกบ้านแขกเมืองมาจากต่างประเทศอย่างเป็นทางการ
เดินเล่นชม Tehran Grand Bazaar สีสันของการจับจ่าย อาหาร แฟชั่น เครื่องประดับ พรม ขนม ของฝาก ฯลฯ กับพื้นที่กว่า 10 กิโลเมตร ตลาดนี้ตั้งอยู่ที่จตุรัส ARG หรืออยู่ตรงข้ามกับประตูทางออกของพระราชวัง Golestan เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีตรอกซอกซอยครอบคลุมไปทั่วบริเวณ
นําท่านชมกรุอภิมหาสมบัติที่พิพิธภัณฑ์อัญมณีแห่งชาติอิหร่าน (National Jewelry Museum) ซึงอัญมณีจากทุกยุคทุกสมัยของกษัตริย์ทุกราชวงศ์ทีเคยปกครองอาณาจักร เปอร์เซียในอดีตและครอบครองอภิมหาสมบัติจํานวนมากมายนั้น ล้วนถูกเก็บไว้ในสถานทีแห่งนี้จนเรียกได้ว่ามีความอลังการในชนิดและรูปแบบ และมโหฬารในจํานวนที่มากมายทีสุดในโลกจากพิพิธภัณฑ์อัญมณี
นำท่านเดินทางชม Tabiat Bridge สะพานคนเดินที่ใหญ่และยาวที่สุดในกรุงเตหะราน โดยสะพานแห่งนี้ถือเป็นความภูมิใจในสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ร่วมสมัยของชาวอิหร่าน ซึ่งตัวสะพานสร้างเชื่อมสวนสาธารณะขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ Taleghani Park และ Abo-Stash Park โดยสถาปิกผู้ออกแบบนามว่า Leila Araghian ซึ่งผลงานการออกแบบสะพานแห่งนี้ได้รับรางวัล Architizer A+ Award จัดขึ้นที่กรุง New York อีกด้วย
คืนนี้พักที่เมือง Tehran
Day 3 : Tehran – Kashan
เดินทางไปยังเมือง Kashan เป็นเมืองในโอเอซิสที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ นำท่านไปเที่ยวชม สวนฟิน (Fin Garden) ซึ่งเป็นสวนที่อยู่ติดกับที่ราบเชิงเขาซาโกรซ ถูกสร้างขึ้นในราชวงศ์ซาฟาวิด โดย ชาห์ อับบาสที่ 1 ออกแบบให้เป็นสวนแบบเปอร์เซีย ภายในสวนได้ถูกตกแต่งด้วยน้ำพุ ที่เกิดจากแหล่งน้ำธรรมชาติซึ่งมีความดันจากน้ำใต้ดิน สามารถให้มีกำลังน้ำที่ไหลไปตามท่อต่างๆ และไหลไปหล่อเลี้ยงต้นไม้ต่างๆ ภายในสวนด้วย และยังมีวังอันสวยงามที่ถูกสร้างเป็น 2 ชั้นสำหรับเป็นที่ประทับ พร้อมกันนั้นก็มีห้องอาบน้ำและอบไอน้ำ
ชม Tabatabaei house เป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ของพ่อค้าพรม ที่บริจาคให้กับรัฐบาลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมความอลังการบ้านที่เอกลักษณ์ ความเป็นอยู่คนคาซาน ลักษณะของคฤหาสน์ ลานโล่ง และสระน้ำอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยอาคารแบ่งเป็นห้องต่างๆ ที่น่าสนใจ คือ หอดักลมที่ช่วยระบายความร้อนในช่วงฤดูร้อน และให้ความอบอุ่นช่วงฤดูหนาว
ชม Borujerdi Historical House บ้านหรือคฤหาสน์หลังนี้ได้ถูกสร้างขึ้นโดยพ่อค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองคาชาน ชื่อว่า ฮัจ เซเยส จาฟาร์ นาทานซี เพราะว่าได้ทำการส่งสินค้าออกไปยังเมืองบรูเจอร์ดี บ้านหลังนี้ได้ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ.1875 ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 18 ปี ภายในประกอบไปด้วยสนามหญ้าที่ถูกตกแต่งด้วยต้นไม้ และตัวบ้านมีลักษณะเป็นช่องลมเพื่อให้อากาศได้ถ่ายเทและหมุนเวียน อีกทั้งยังทำการตกแต่งลวดลายฝาผนังด้วยการแกะสลักปูนปั้นและทาสีให้มีความสวยงามตามแบบลักษณะของอิหร่านอีกด้วย
เที่ยวชม Agha Bozorg Mosque เป็นมัสยิดเก่าแก่ต่อมาในราชวงศ์กอจาร์กได้สร้างโรงเรียนสอนศาสนาขึ้นมาด้วย ด้านหน้ามัสยิดจะมีสนามหญ้า ไม้ประดับ ตรงกลางมีน้ำพุ ส่วนด้านหลังจะเป็นตัวโดมที่ถูกสร้างด้วยอิฐ
เที่ยวชม Kashan Bazaar เป็นบารซาร์ที่ตั้งอยู่ในกลางเมืองที่เก่าแก่ สร้างขึ้นในสมัยของราชวงศ์ซาฟาวิด ภายในตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงและยังถูกใช้งานมาจนถึงปัจจุบันนี้
คืนนี้พักที่เมือง Kashan
Day 4 : Kashan – Esfahan
เดินทางไปยังเมือง Esfahan ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเตหะรานทางทิศใต้ราว 340 กม. อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรเปอร์เซียแห่งยุคที่มีความรุ่งเรืองสูงสุดอีกครั้งหนึ่งในศตวรรษที่ 17-18 มีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นภายใต้การปกครองของราชวงศ์ซาฟาวิด ซึ่งเป็นชาวเปอร์เซียแท้ และเมืองหลวงอิสฟาฮานก็กลายเป็นทั้งเมืองศูนย์กลางการปกครองและเมืองศูนย์กลางทางการค้า จนได้รับฉายาว่า Esfahan is half of the world และปัจจุบันนี้ (เป็นเมืองมรดกโลกโดยการขึ้นทะเบียนขององค์การยูเนสโก เมื่อเดินทางถึงเมือง Esfahan นำท่านเข้าเช็คอินที่โรงแรม
นำท่านเยี่ยมชม Naqsh-e-Jahan ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งนับว่าเป็น จัตุรัสที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจัตุรัสเทียนอันเหมิน ที่มีความกว้าง 165 เมตร และมีความยาวถึง 500 เมตร รวมเนื้อที่ประมาณ 80,000 กว่าตารางเมตร ใหญ่กว่าจัตุรัสแดงในกรุงมอสโคว์ถึง 2 เท่า ในอดีตเป็นสนามแข่งโปโล หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า จัตุรัสอิหม่าม Imam Square อัญมณีแห่งโลกมุสลิมที่ผนวกรวมทั้งแนวความคิด ปรัชญา และสถาปัตยกรรมที่สวยงามเอาไว้ในที่เดียวกัน
ชม พระราชวังอะลีคาปู(Ali Qapu Palace) สร้างขึ้นในตอนปลายศตวรรษที 16 เพื่อเป็นทีประทับของกษัตริย์ชาห์อับบาสที 1 ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของจัตุรัสอิหม่าม เป็นอาคาร 6 ชั้น ทีใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง บนชั้นของพระราชวังสร้างเป็นห้องโถงใหญ่และมีระเบียงหันหน้าเข้าหาจัตุรัสอิหม่ามสําหรับพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ไว้ประทับทอดพระเนตรการละเล่นต่างๆ และปัจจุบันกลายเป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพมุมสูงที่สวยงาม ซึ่งสามารถมองเห็นทุกมุมและทุก อย่างที่อยู่บนจัตุรัสได้อย่างชัดเจน
ชม Bazaar of Esfashan หรือที่เรียกกันว่า Qeysarriyeh Bazaar ตลาดใหญ่ประจำเมืองที่เป้นแหล่งการค้าหรูในสมัยซาฟาวิด ตลาดนี้มีสินค้าพื้นเมือมากมาย เช่น พรม กระเป๋าผ้า เครื่องประดับ เครื่องเงิน แจกัน ของแต่งบ้าน เป็นต้น
คืนนี้พักที่เมือง Esfahan
Day 5 : Esfahan
ชมมัสยิดอิหม่าม (Imam Mosque) ตั้งอยู่ปลายสุดทางด้านทิศใต้ของจัตุรัส เป็นหนึ่งในมัสยิดทียิงใหญ่และสวยงามทีสุดแห่งหนึ่งของโลก เริ่มสร้างในปี 1611 สมัยกษัตริย์ชาห์อับบาสที่ 1 และเสร็จสมบูรณ์ในอีก 4 ปีต่อมา นอกจากขนาดทีใหญ่โตโอฬารแล้ว ยังเป็นมัสยิดทีมีองค์ประกอบทางด้าน สถาปัตย์ทีสวยงามทีสุดในประเทศอิหร่านโดยเฉพาะโดมประธานขนาดมหึมาทีสร้างคร่อมกันเป็นสองชั้นขนานกันตลอดทุกตารางนิ้ว ซึ่งมีผลต่อการระบายอากาศและการกระจายของเสียงผู้นําสวดให้แผ่ออกไปจนได้ยินอย่างชัดเจนในทุกซอกทุกมุมของมัสยิดโดยไม่ต้องใช้ไมโครโฟน
เข้าชมมัสยิด Sheikh Lotf Allah ซึ่งเป็นมัสยิดที่มีการออกแบบทั้งภายในและภายนอกอย่างสวยงามวิจิตรตระการตา ประดับประดาไปด้วยกระเบื้องเคลือบสีสันสวยงามตามแบบศิลปะเปอร์เซีย นอกจากนี้กลุ่มอาคารต่างๆ ยังมีการตกแต่งที่สวยหรูไม่แพ้กันอีกด้วย ที่นี่ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1979
ชม Chehel Sotun Palace หรือ วัง 40 เสา ซึ่งความจริงแล้วมีเสาเพียง 20 ต้นเท่านั้น แต่เมื่อมองผ่านเข้ามาทางสระน้ำหน้าวังจะเป็นเงาในน้ำอีก 20 ต้น ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1614 โดยสถาปนิก ชื่อ ชีคห์ บาไฮ พื้นที่ของพระราชวังประมาณ 67,000 ตรม. ด้านหน้ามีสระน้ำมีความยาว 100 เมตร และกว้าง 16 เมตร และตัวพระราชวัง 2 ชั้นสูง 15 เมตร มีการแกะสลักลวดลายประตูหน้าต่างที่สวยงาม และล้อมรอบไปด้วยสวนดอกไม้ที่เขียวชอุ่มเพื่อให้เป็นที่พักผ่อนของกษัตริย์และนางสนมต่อมาใช้เป็นที่ต้อนรับพระราชอาคันตุกะ ซึ่งต่อมาก็ได้ถูกต่อเติมโดยกษัตริย์ชาห์ อับบาส ที่ 2 และเสร็จเรียบร้อยในปี ค.ศ.1647
ชมโบสถ์แว้งค์(Vank Church) ซึงเป็นโบสถ์ประจําชุมชนชาวอาร์เมเนียซึ่งพักอาศัยอยู่ในเขต “นิวจุลฟา” ของเมืองอิศฟาฮาน ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธด๊อกซ์ นี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของคนต่างนิกาย ต่างศาสนา แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และชี้ให้เห็นถึงความใจกว้างของผู้นําประเทศและผู้นําทางศาสนาซึงเป็นมุสลิมนิกายชีอะห์ ตัวโบสถ์สร้างระหว่างปี 1606-1655 หากมองจากภายนอกจะเห็นโดมของโบสถ์เหมือนเป็นโดมของมัสยิด แต่ถ้าดูให้ดีจะเห็นไม้กางเขนขนาดเล็กปักอยู่ทีโดมใกล้ๆ กับตัวโบสถ์จะมีพิพิธภัณฑ์ของชาวอาร์เมเนียนซึ่งจัดแสดงภาพเขียนของบุคคลสําคัญของชาวอาร์เมเนียน และบางส่วนจัดแสดงวิวัฒนาการเกียวกับการพิมพ์ในอิหร่าน ซึ่งชาวอาร์เมเนียนเป็นผู้บุกเบิก
นำทุกท่านเดินทางสู่เขต New Julfa ซึ่งเป็นเขตที่ชาวอาร์เมเนียอพยพมาตั้งรกรากที่เปอร์เซียแห่งนี้ตั้งแต่สมัยสงครามออตโตมัน ในปี ค.ศ. 1603-1618 โดยได้นำเอาคริสต์ศาสนาซึ่งเป็นศาสนาที่ชาวอาร์เมเนียนมาด้วย
ชื่นชมทัศนียภาพของความงดงามของสายน้ำ สะพาน Siosepol Bridge สะพานที่สร้างขึ้นด้วยอิฐโบราณที่โค้งรับน้ำถึง 33 โค้ง สร้างประมาณราว ค.ศ. 1622 เป็นศิลปะแบบเปอร์เซีย ซึ่งมีความโดดเด่นและ ความสวยงามมากมีอายุกว่า 380 ปี สะพานนี้ทอดข้ามแม่น้ำซอยันเดห์โรด์ เช่นเดียวกับสะพานคาจู
ชม สะพาน Khajou Bridge เป็นสะพานเก่าแก่ที่สวยงามที่สุดในเมืองอิสฟาฮาน ของประเทศอิหร่าน ข้ามแม่น้ำแม่น้ำซอยันเดห์โรด์ (Zayandeh-Rud) สร้างมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิตีมูร์ ในศตวรรษที่ 15 ก่อนที่ในศตวรรศที่ 17 ราวปี ค.ศ. 1650 กษัตริย์ชาวเปอร์เซีย “ชาห์ อับบัสที่ 2” แห่งราชวงศ์ซาฟาวิด (Safavid Dynasty) ได้สร้างสะพานใหม่ทับรากฐานสะพานเก่า ในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบสะพานโค้งโรมัน สะพานคาจูมีสีน้ำตาลอ่อนตามสีอิฐที่ใช้ก่อสร้าง มีความยาวถึง 132 เมตร กว้าง 12 เมตร มี 2 ชั้น ประกอบด้วยซุมโค้ง 23 ซุ้ม โครงสร้างด้านบนเป็นอิฐ สร้างเป็นถนนให้สัญจร ตรงกลางทั้งสองข้างของสะพาน มีศาลาโถงรูปหกเหลี่ยมตั้งอยู่ อดีตเป็นพลับพลาที่ประทับ เพื่อให้กษัตริย์และข้าราชบริพาร
คืนนี้พักที่เมือง Esfahan
Day 6 : Esfahan – Meybod – Yazd
เดินทางต่อสู่เมืองเมย์บ็อด (Meybod) ซึงอยู่ห่างจากเมืองนาอีนประมาณ 1 ชัวโมง นําท่านชมป้อมปราการนาริน (Narin Caravan Sarai) ซึงนักประวัติศาสตร์ เชื่อว่าในบริเวณนี้คือทีตั้งหลักแหล่งของคนยุคบรรพกาลตั้งแต่ประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว และป้อมปราการแห่งนี้ก็สร้างคร่อมบนที่ตั้งหลักแหล่งเดิมตั้งแต่ประมาณ 800-900 ปี ก่อนคริสตกาลในยุคกษัตริย์โซโลมอนแห่ง อาณาจักรยูดายส่วนป้อมปราการที่เห็นในปัจจุบันนี้ได้สร้างขึ้นใหม่ในยุคซัสซาเนียน ของเปอร์เซียนี้เอง
ชมที่พักแรมทางของพ่อค้าในอดีตซึ่งเรียกว่า “คาราวานซาราย” (Caravan Sarai) และปัจจุบันนี้ได้ถูกดัดแปลงให้เป็นที่พักสําหรับนักท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสบรรยากาศแบบย้อนยุคเมื่อเกือบ 500 ปีทีแล้ว
แวะชม Ice House โกดังเก็บน้ำแข็ง (หิมะ) ในช่วงฤดูหนาวสำหรับใช้ในหน้าร้อน
ชม Pigeon House หอคอยนกพิราบอาบุ 200 ปี ภายในแบ่งเป็นช่องขนาดพอดีตัวนกพิราบ มีทั้งสิ้น 1,000 ช่อง เพื่อเลี้ยงเป็นอาหารและนำมูลไปใช้เป็นปุ๋ย
แวะ จิบกาแฟที่ร้าน Yazd Art House เป็นร้านอาหารกุ่งคาเฟ่ และร้านขายของฝากที่ก่อตั้งโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากรวิทยาเขต Yadz
ชมเมืองเก่าแห่งยาซด์ เป็นสถานที่ที่เก่าแก่แห่งหนึ่งในโลก และอยู่ในรายชื่อที่เป็น UNESCO World Heritage site มีมาตั้งแต่ 5000 ปีที่แล้วซึ่งเป็นปีก่อตั้งเมือง กำแพงสร้างมาจากอิฐฉาบด้วยดินผสมฟางเรียงรายติดๆกันไปตลอดแนว มีทางเดินแคบๆลดเลี้ยวไปตามตรอกบ้านเรือนนับพันหลัง
ชม อนุสรณ์สถาน Amir Chakhmaq Monument ซึ่งถูกสร้างขึ้นในบริเวณที่เป็นจัตุรัสอยู่กลางเมือง ถูกสร้างขึ้นโดยจาดิน อัล อาเมียร์ เช็คห์แมก ในขณะที่ท่านเป็นผู้ว่าการของยาซ์ดในสมัยของราชวงศ์ตีมูร์ สถานที่แห่งนี้มีรูปแบบและการออกแบบที่เข้ากับความสวยงามซึ่งมีน้ำพุอยู่ตรงกลาง และยังมีมัสยิดที่มีชื่อเดียวกันถูกสร้างอย่างสวยงาม นอกจากนั้นยังมีที่พักของคนเดินทางคาราวานซาราย มีที่อาบน้ำและมีน้ำเย็นสำหรับดื่ม เมื่อเวลาพลบค่ำก็จะมีแสงสีส้มที่สวยงามที่ออกมาจากส่วนโค้งข้างในมัสยิด ซึ่งทำให้เป็นภาพที่น่าตื่นเต้น
คืนนี้พักที่เมือง Yazd
Day 7 : Yazd
ชม Tower of Silence นำท่านชมศาสนสถานและเคยเป็นศูนย์กลางของศาสนา โซโรแอสเตอร์ในอดีต ตั้งอยู่บนเนินเขาด้านใต้ของเมืองยาซด์ เป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยตัวอาคารหลักในการทำพิธีกรรมทางศาสนา มีบ่อน้ำดื่มน้ำใช้อยู่ใต้ดิน ห้องครัว ห้องพัก และแท่นทำพิธีศพที่อยู่ด้านหลังตัวอาคาร ทั้งหมดนี้สร้างด้วยดินเหนียวตากแห้งและเรียกรวมกันว่า Tower of Silence
จากนั้นชม Ateshkadeh Fire Temple ซึ่งเป็นศาสนสถานที่ชาวโซโรแอสเตรียนในเมืองยาซด์ยังคงใช้ในการทําพิธีอยู่ ทั้งการบูชาเทพอะหุรามาสดาซึ่งเป็นเทพสูงสุดของศาสนานี้ และท่านศาสดาโซโรแอสเตอร์ซึงเป็นผู้เผยแผ่คําสอนมาตั้งแต่เมือ 628 ปีก่อนคริสตกาล การเข้าชมย่อมต้องให้ความเคารพต่อสถานทีโดยการไม่ส่งเสียงดัง และอยู่ในอาการสํารวมเมือเข้าไปภายในห้อง ทําพิธี ซึ่งห้องนี้ จะต้องมีเปลวไฟลุกโชติช่วงอยู่ตลอดเวลาเปรียบดังพระอาทิตย์ที่ไม่มีวันดับ
ชม Jameh Mosque ที่เชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในบรรดามัสยิดทั้งหลายในประเทศอิหร่านปัจจุบัน เป็นศาสนสถาน งดงามที่สุดในยาซ์ดมีอายุกว่า 800 ปี สร้าง ตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 จนมาบูรณะและขยับขยาย เมื่อต้นศตวรรษที่ 20
นำท่านชมพิพิธภัณฑ์น้ำ Water Museum ภายในมีห้องแสดงอุปกรณ์การทำระบบขนส่งน้ำรวมถึงวิธีการขนส่งระบบน้ำในสมัยโบราณ
ชม Dowlat abad garden มีสวนสไตล์เปอร์เซีย และ ชมเครื่องจับลมสร้างความเย็นในฤดูร้อน หรือ แอร์ในสมัยโบราณนั่นเอง
คืนนี้พักที่เมือง Yazd
Day 8 : Yazd – Shiraz
เดินทางไปยังเมือง Shiraz ซึ่งเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดฟาร์ส
จากนั้นเดินทางสู่พระราชวังโบราณเปอร์ซีโปลิส (Persepolis) ซึ่งอยู่ทางด้านเหนือของเมืองชีราซขึ้นไปประมาณ1 ชั่วโมง พระราชวังแห่งนี้ ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นแห่งที่สองนับตั้งแต่สถาปนาอาณาจักรเปอร์เชียขึ้นเมือปี 559ก่อนคริสตศักราช (พระราชวังและเมืองหลวงแห่งแรกคือพาซากาด สร้างโดยกษัตริย์ไซรัสมหาราช)
จากนั้น นำท่านไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสุสานที่ฝังศพของกษัตริย์ 4 องค์ เนโครโพลิส (Necropolis) ชมสถาปัตยกรรมที่เด่นในการแกะสลักบนผาหินและที่สำคัญเป็นสุสานของษัตริย์ ดาริอุสที่ 1 และกษัตริย์องค์ต่อๆมาอีก 3 พระองค์ ซึ่งเคยปกครองนครเปอร์เซโพลิสมาก่อน
คืนนี้พักที่ Shiraz
Day 9 : Shiraz
ชมมัสยิดสีชมพู (Nasir-Ol Molk) ซึ่งเป็นมัสยิดทีสวยงามแปลกตามาก เพราะประดับไปด้วยกระเบื้องโทนสีแดง-ชมพู-เหลือง เป็นสี หลัก มีเพียงแห่งเดียวในอิหร่าน ไม่ว่าท่านจะมองจากมุมไหน มัสยิดแห่งนี้จะออกสีชมพู อ่อนหวาน ความสวยขนาดทีได้รับเลือก ให้เป็นภาพปกหนังสือ ตอนย้อนรอยอารยันของนักเขียนนาม เชนทร์ ชนะการณ์ มาแล้ว ข้างในกว้างขวาง ใหญ่โตไม่ว่าจะ มองมุมไหน
นำท่านชม สวนนาเรนเจสตาน (Narenjestan Garden) ซึ่งเป็นสวนที่มีความสวยงามอีกแห่งของชีราช ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1879 และเรียบร้อยในปี ค.ศ.1886 เพื่อให้เป็นที่พำนักของแขกต่างเมืองที่มาเยี่ยมเยือน แต่ต่อมาก็ได้กลายเป็นที่พักของเจ้าเมืองในราชวงศ์กอจาร์ในอดีต ซึ่งภายในทางเข้าได้ถูกตกแต่งด้วยกระจกชิ้นเล็กๆ ด้วยฝีมือที่สวยงาม และห้องต่างๆที่อยู่รอบด้านก็ได้มีการตกแต่งด้วยกระจกสีที่บานหน้าต่างอีกด้วย ส่วนอีกด้านหนึ่งที่อยู่บริเวณข้างๆกัน ยังมีการตกแต่งภายใน และมีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งของบุคคลที่สำคัญในอดีตของเปอร์เซีย
ชม Vakil Mosque มัสยิด Vakil เป็นมัสยิดใน Shiraz ทางตอนใต้ของอิหร่านตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของ Vakil Bazaar ติดกับทางเข้า มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปี 1751 และปี 1773 ได้รับการจดทะเบียนในบัญชีมรดกแห่งชาติอิหร่านในปี 1932
เลือกซื้อของฝากที่ ตลาดวากิลบาซาร์ (Vakil Bazaar) เป็นตลาดบาซาร์ที่ตั้งอยู่ในบริเวณดาร์บ อี ชาห์ซาเดห์ ซึ่งอยู่ใกล้กับมัสยิดวาคิล ภายในจะมีสินค้าหลายอย่างรวมทั้งเครื่องเทศต่างๆ มากมาย ทัวร์แกรนด์อิหร่าน
พักที่ Shiraz
Day 10 : Shiraz – Tehran – Bangkok
นำท่านไปชม สวนอีแรม (Eram Garden/ Garden of Paradise) สวนที่สวยงามราวกับสวนสวรรค์ เป็นสวนที่ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับและไม้ยืนต้นหลากหลายชนิด เป็นการจัดสวนแบบเปอร์เซียที่งดงามยิ่ง ภายในสวนยังมีตำหนักเก่าของผู้ปกครองเมืองชีราซ ราชวงศ์กอจาร์(Qajars) สร้างโดย ข่านโมฮัมหมัด อาลี เมื่อต้นศตวรรษที่ 18 ซึ่งทิ้งร่องรอยแห่งความสวยงามไว้จนกระทั่งปัจจุบัน
ชม ที่ฝังศพฮาเฟซ (Mausoleum of Hafez) ซึ่งมีชื่อเต็มว่า ซัมซุดดิน มูฮัมหมัด ฮาเฟซ เป็นกวีเอกที่มีชื่อเสียง เกิดที่เมืองชีราซเมื่อปี ค.ศ.1324 และเสียชีวิตเมื่อปีค.ศ. 1391 ฮาเฟซมีความสามารถในการแต่งบทกวีที่ได้ความไพเราะ ที่เข้าใจวิถีชีวิตของผู้คน และแต่งกวีที่ใช้คำง่ายๆขึ้นมาให้เป็นคติสอนคนให้เป็นคนดี อนุสรณ์สถานที่ฝังศพของนักกวีที่ยิ่งใหญ่ที่สร้างได้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ.1936-1938 เพื่อให้เป็นที่รำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน
15.40 น.
ออกเดินทางสู่กรุงเตหะรานโดยสายการบิน Iran Aseman Airlines เที่ยวบินที่ EP3785 โดยใช้เวลาบินประมาณ 1.25 ชั่วโมง ทัวร์แกรนด์อิหร่าน
18.20 น.
ถึงสนามบิน เตหะรานแล้ว นำท่านต่อเครื่องเดินทางกลับกรุงเทพ
21.45 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินมาฮาน แอร์ เที่ยวบิน W5-051 ซึ่งใช้เวลาในการบินตรงประมาณ 6 ชั่วโมงครึ่ง ทัวร์แกรนด์อิหร่าน
Day 11 : Bangkok
07.45 น.
เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ
โปรแกมอื่นๆ >> https://www.painaima.com/tag/iran/
ดูรูปภาพสวยๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://500px.com/search?q=kashan&type=photos&sort=relevance