ทัวร์ไอซ์แลนด์ Winter 2563
Day 1 : Bangkok
20.00 น. นัดพบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ G ประตู 4 ทีมงานอำนวยความสะดวกเช็คอิน สายการบิน FINN AIR เที่ยวบินที่ AY144 ออกเดินทางเวลา 23.05 น. โดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่เฮลซิงกิ เวลา 05.20 น.
Day 2 : Helsinki – Keflavik – Reykjavik – Thingvellir Lanagvernt
07.40 น. ออกเดินทางต่อเครื่องสู่เมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ โดยสายการบิน FINN AIR เที่ยวบิน AY991
09.30 น.
เดินทางถึงเมืองเรคยาวิก เดินทางเข้าที่พัก
ชมเมืองเรคยาวิกจากมุมสูง ที่ Perlan สามารถเห็นตัวเมืองอันมีฉากหลังเป็นเทือกเขาบนเกาะน้อยใหญ่อย่างตระการตา
ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) โบสถ์ใจกลางเมืองที่มีความสูง 73 เมตร เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์และเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 6 ของไอซ์แลนด์ โดยโบสถ์แห่งนี้ถูกตั้งชื่อขึ้นตามชื่อของ ฮัลล์กรีมูร์ เพทูร์สซอน (1614 – 1674) กวีและนักบวชชาวไอซ์แลนด์ เพราะคำว่า “ฮัลล์กรีมสคิร์คยา” ตามศัพท์แปลว่า “โบสถ์ของฮัลล์กรีมูร์”
Harpa อันเป็น Concert Hall และ Conference Center มีที่ตั้งอยู่ริมอ่าว โดยอาคารแห่งนี้ถูกตกแต่งไปด้วยกระจก 6 เหลี่ยม เมื่อยามสะท้อนแสงอาทิตย์จะทำให้เกิดเป็นประกาย หลากสีสันแตกต่างกันออกไปตามมุมมองที่เรายืนชมอยู่ นับเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่หาดูได้ยากในโลก
ถ่ายรูปกับ Sun Voyager (Solar) สร้างขึ้นเมื่อปี 1990 ชนะเลิศจากการประกวดประติมากรรมเพื่อเฉลิมฉลองกรุงเรคยาวิกครบ 200 ปี Sun Voyeger แทนความหมายของเรือแห่งความฝันที่ออกเดินทางไปตามทิศทางแห่งดวงอาทิตย์ ไปสู่ดินแดนที่ยังไม่ถูกค้นพบ
พาชม อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) อุทยานแห่งชาติแห่งแรก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก มีความสำคัญคือ เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยูเรเซีย และทวีปอเมริกาเหนือ และยังมีฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์
คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Lanagvernt
Day 3 : Gullfoss – Geysir – Kerid – Selfoss
ชม กูลฟอสส์ หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ (Gullfoss) ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว 1 ใน 3 ที่ไอซ์แลนด์จัดให้อยู่ในเส้นทาง “วงกลมทองคำ” ที่ผู้มาเยือนต้องมาเที่ยวชม สำหรับ ชื่อน้ำตกแห่ง Gullfoss มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่าทองคำและ Foss ที่แปลว่าน้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึงน้ำตกทองคำ
ชม น้ำพุร้อนหรือเกย์เซอร์ ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที สาเหตุการเกิดน้ำพุร้อนดังกล่าวเนื่องมาจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน
พาท่านชม ปล่องภูเขาไฟ Kerid Crater ปล่องภูเขาไฟสีเลือดที่มีทะเลสาบสีเขียวมรกตปรากฏอยู่บริเวณปากปล่อง ซึ่งแม้ว่าจะมีอายุกว่า 3 พันปีแล้วก็ตาม แต่ยังมีสภาพที่สมบูรณ์อยู่
คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Selfoss ทัวร์ไอซ์แลนด์ Winter 2563
Day 4 : Seljaland – Skoga – Vik
ชม น้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์ (Seljalansfoss) น้ำตกที่มีความสูง 60 เมตร และถือเป็นอีกหนึ่ง Highlight ของน้ำตกแห่งนี้ที่ผู้มาเยือนสามารถเดินเข้าไปด้านหลังได้
สโกก้าฟอสส์ (Skogarfoss) น้ำตกอันมีมวลน้ำขนาดใหญ่ตกมาจากหน้าผาสูง 62 เมตร ความสวยงามตระการตาของน้ำตกที่เห็นอยู่นั้น เกิดจากองค์ประกอบรอบๆ ของตัวน้ำตกและโตรกผาที่สอดประสานกัน
ชม แหลม Dyrholaey (เดิมเรียกว่า เคปพอร์ตแลนด์โดยชาวอังกฤษ) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ จุดเด่นของที่นี่คือ หาดลาวาสีดำสนิท ที่ทอดตัวยาวหลายสิบกิโลเมตร โดดเด่นที่บริเวณริมผาจะเห็นประติมากรรมอันถูกสร้างสรรค์จากธรรมชาติ เป็นลักษณะแหลมหินที่มีรูขนาดใหญ่ยื่นลงไปในทะเล เมื่อมองกลับไปด้านหลังจะพบกับธารน้ำแข็ง Mýrdalsjökull glacier
Reynisfjara Black Sand Beach หรือ หาดทรายดำแห่งไอซ์แลนด์ ถูกจัดอันดับว่าเป็นหาดทรายสีดำที่สวยที่สุดในโลก อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ทางใต้ของไอซ์แลนด์ บนชายหาดเต็มไปด้วยกรวดสีดำสนิท เป็นตะกอนเม็ดทรายสีดำที่สะสมตัวกันบริเวณชายหาด เกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวา และแนวหินบะซอลต์ ที่ถูกพัดพาไปสะสมตัวบริเวณชายหาด
คืนนี้เราจะพักกันที่ ใกล้ๆ Vik
Day 5 : Vik – Lava – Jokulsalon
เดินทางต่อสู่เส้นทางเลียบชายหาด แวะชม Lava Field ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ามอสที่ปกคลุมอยู่บนหินลาวา เมื่อถ่ายภาพออกมา จะกลายเป็นภาพที่แปลกตาแต่สวยงาม
ธารน้ำแข็ง VATNAJOKULL มีขนาด 8,300 ตร.กม. เท่ากับธารน้ำแข็งทั้งหมดในทวีปยุโรปรวมกัน และขนาดความหนามากที่สุดประมาณ 1,000 เมตร ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรป
ชม ธารน้ำแข็ง SvinafellsJokull อันมีลักษณะเป็นกราเซียที่เกิดจากธารน้ำแข็ง Vatnajokul ผู้มาเยือนสามารถถ่ายภาพกับวิวกลาเซียและก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในทะเลสาบเบื้องล่างอันแสนพิเศษนี้
ชม Jallsárlón ทะเลสาบอันเกิดจากธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาบรรจบกับแอ่งน้ำเบื้องล่าง อยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติ Vatnajökull
โจกุลซาลอน (Jokulsarlon) ซึ่งถือเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ธารน้ำแข็งแห่งนี้ เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 1934-1935 ต่อมาจึงเกิดการละลายเรื่อยๆ จนเพิ่มพื้นที่มากขึ้นในทุกๆ ปี
AMPHIBIAN BOAT TOUR ล่องเรือชมความงานของภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ท่ามกลางทิวทัศน์อันสวยงามแปลกตา ตื่นตากับธารน้ำแข็ง 1000 ปี หากโชคดีอาจจะเจอแมวน้ำรอต้อนรับ
คืนนี้เราจะพักกันที่ ใกล้ๆ Jokulsalon
Day 6 : Ice cave – Vik – Hella
เข้าชม ถ้ำคริสตัล (Ice Cave) (ขึ้นกับสภาพอากาศ) เป็นถ้ำในทะเลสาบแช่แข็งที่เกิดจากธารน้ำแข็ง สวีนาเฟลล์โจกุล (Svinafellsjokull Glacier) ถ้ำแห่งนี้มีปากถ้ำที่เป็นปล่องน้ำแข็งสูงประมาณ 22 ฟุต ความความโดดเด่นของถ้ำแห่งนี้ก็คือ ผนังน้ำแข็งคือก้อนน้ำแข็งสีฟ้าอ่อนเหมือนกับก้อนคริสตัล ให้ความรู้สึกเหมือนเราท่องไปในดินแดนพิศวง จากนั้นเดินทางกลับสู่เมือง Selfoss
คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Hella
Day 7 : Hella – Grundafjordur
เดินทางสู่ Snæfellsjökull เขตภูเขาไฟอายุ 700,000 ปีที่มีกลาเซียปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ และภูเขาไฟแห่งนี้ ยังเป็นฉากในนวนิยายเรื่อง Journey to the Center of the Earth
เดินทางสู่ Grundafjordur เมืองเล็กๆริมทะเล อยู่ทางตอนเหนือของคาบสมุทร Snæfellsnes Peninsula ทางทิศตะวันตกของไอซ์แลนด์ อาคารแต่ละหลังถูกสร้างขึ้นมาอย่างเรียบง่าย มีฉากหลังเป็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ
Kirkjufell ภูเขาทรงหมวก หนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ อีกแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ใกล้ๆ ภูเขายังมีน้ำตกขนาดเล็กๆ อันเป็นภาพที่คุ้นตาจากช่างภาพทุกมุมโลกที่สวยงามมากแห่งหนึ่งอีกด้วย
คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Grundafjordur
Day 8 : Lava Cave – Grundafjord
ให้ท่านได้มีโอกาสเก็บภาพ Kirkjufell อีกครั้งหนึ่ง
เดินทางกลับเมืองหลวง แวะไป บลูลากูน (Blue Lagoon) หรือทะเลสาบสีฟ้า ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ สามารถลงไปแหวกว่าย นอนแช่ในบ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิความร้อนของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียสได้อย่างสบายๆ ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งตัวน้ำพุร้อนอันบริสุทธิ์ยังเต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยรักษาโรคได้อีกด้วย (กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำไปด้วยครับ)
คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Keflavik
Day 9 : Keflavik – Helsinki – Bangkok
อิสระตามอัธยาศัย ช่วงสายเดินทางสู่สนามบิน เตรียมตัวเช็คอิน สายการบิน Finn Air เที่ยวบิน AY992 ออกเดินทางเรคยาวิค เวลา 10.20 น. แวะเปลี่ยนเครื่องที่เฮลซิงกิ เวลา 15.50
Day 10 : Bangkok
00.45 น.
เดินทางต่อสู่กรุงเทพ โดยสายการบิน Finn Air เที่ยวบิน AY143
15.40 น.
เดินทางถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพร้อม ความประทับใจ
ดูภาพรีวิวทริปเส้นทางเที่ยวไอซ์แลนด์ >> https://www.painaima.com/trip-review/iceland/
ดูรูปสวยๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://500px.com/search?q=iceland+winter&type=photos&sort=relevance