ทัวร์ไอซ์แลนด์ Summer 2563
Day 1 : Bangkok
22.00 น.
นัดพบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แถวH/J ประตู4 ทีมงานอำนวยความสะดวกเช็คอินสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG950 ออกเดินทางเวลา 01.20 น. บินสู่ โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ใช้เวลาเดินทางสู่ โคเปนเฮเกน ประมาณ 12 ชั่วโมง
Day 2 : Copenhegen – Reykjavik
07.40 น. เดินทางถึงประเทศเดนมาร์กผ่านการตรวจคนเข้าเมือง เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองโคเปนเฮเกนโดยใช้รถไฟ โดยจะสามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดาย
พาท่านไปถ่ายรูปกับเงือกน้อย little mermaid ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโคเปนฮาเก้น ที่กำลังนั่งรอเจ้าชายตามเทพนิยายอันเลื่องชื่อ ของนักเล่านิทานระดับโลกฮันส์คริสเตียน-แอนเดอร์สัน
Amalianborg Castle พระราชวังที่สร้างขึ้นสำหรับประทับช่วงฤดูหนาว ประกอบด้วยอาคารสี่หลังใหญ่ ล้อมรอบพื้นที่ทรงแปดเหลี่ยม ตรงกลางด้านในนั้นประดิษฐานอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้าของผู้ก่อตั้ง Amalienborg ของกษัตริย์เฟรเดอริที่ 5
ท่าเรือ Nyhavn ที่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลากสีสัน เพราะรายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ผับ บาร์ ตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทาง ผสานไปด้วยบ้านเรือนสไตล์แดนิชหลากสีสันที่สร้างขึ้นได้อย่างสวยงาม
เดินทางกลับสู่สนามบินเตรียมตัวบอร์ดดิ้งสายการบินIceland Air เดินทางสู่ประเทศไอซ์แลนด์ ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมง (FI205 14.10-15.25)
***เวลาเที่ยวบินภายในอาจมีการเปลี่ยนแปลง ตามฤดูกาล***
เดินทางถึงเมืองเรคยาวิกประเทศไอซ์แลนด์รับสัมภาระแล้วเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองประมาณ 40 นาที
ชม ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) โบสถ์ใจกลางเมืองที่มีความสูง 73 เมตร เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์และเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 6 ของไอซ์แลนด์ โดยโบสถ์แห่งนี้ถูกตั้งชื่อขึ้นตามชื่อของ ฮัลล์กรีมูร์ เพทูร์สซอน (1614 – 1674) กวีและนักบวชชาวไอซ์แลนด์ เพราะคำว่า “ฮัลล์กรีมสคิร์คยา” ตามศัพท์แปลว่า “โบสถ์ของฮัลล์กรีมูร์”
ชม Harpa อันเป็น Concert Hall และ Conference Center มีที่ตั้งอยู่ริมอ่าว โดยอาคารแห่งนี้ถูกตกแต่งไปด้วยกระจก 6 เหลี่ยม เมื่อยามสะท้อนแสงอาทิตย์จะทำให้เกิดเป็นประกาย หลากสีสันแตกต่างกันออกไปตามมุมมองที่เรายืนชมอยู่ นับเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่หาดูได้ยากในโลก
ถ่ายรูปกับ Sun Voyager (Solar) สร้างขึ้นเมื่อปี 1990 ชนะเลิศจากการประกวดประติมากรรมเพื่อเฉลิมฉลองกรุงเรคยาวิกครบ 200 ปี Sun Voyeger แทนความหมายของเรือแห่งความฝันที่ออกเดินทางไปตามทิศทางแห่งดวงอาทิตย์ ไปสู่ดินแดนที่ยังไม่ถูกค้นพบ
คืนนี้เราจะพักกันที่ เมืองเรคยาวิก
Day 3 : Thingvellir – Gullfoss – Geysir – Haifoss
พาชม อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) อุทยานแห่งชาติแห่งแรก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ มีความสำคัญคือ เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยูเรเซีย และทวีปอเมริกาเหนือ และยังมีฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์
ชม น้ำตกกูลฟอสส์ หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว 1 ใน 3 ที่ไอซ์แลนด์จัดให้อยู่ในเส้นทาง “วงกลมทองคำ” ที่ผู้มาเยือนต้องมาเที่ยวชม สำหรับ ชื่อน้ำตกแห่ง Gullfoss มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่าทองคำและ Foss ที่แปลว่าน้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึงน้ำตกทองคำ
ชม น้ำพุร้อนหรือเกย์เซอร์ ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที สาเหตุการเกิดน้ำพุร้อนดังกล่าวเนื่องมาจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน
พาท่านชม น้ำตก Haifoss น้ำตกที่สูงติดอันดับ Top 5 ใน Iceland เข้าถึงได้เฉพาะช่วงที่ไม่มีหิมะปกคลุม เป็นน้ำตกที่ใหญ่และอลังการมาก ตัวหนังตกแบ่งออกเป็น 2 สายไหลลงจากหน้าผาสูงกว่า 200 เมตรตกกระทบเบื้องล่างแล้วไหลลงไปในทางน้ำในหุบเขาหน้าผาสูงชัน
คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Selfoss
Day 4 : Seljalansfoss – Skoga – Dyrholaey – Vik – Klaustur
ชม น้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์ (Seljalansfoss) มีความสูง 60 เมตร และถือเป็นอีกหนึ่ง Highlihgt ของน้ำตกแห่งนี้ที่ผู้มาเยือนสามารถเดินเข้าไปด้านหลังได้
ชม น้ำตกสโกก้าฟอสส์ (Skogarfoss) อันมีมวลน้ำขนาดใหญ่ตกมาจากหน้าผาสูง 62 m ความสวยงามตระการตาของน้ำตกที่เห็นอยู่นั้น เกิดจากองค์ประกอบรอบๆ ของตัวน้ำตกและโตรกผาที่สอดประสานกัน
เดินทางต่อไปตามเส้นทาง South Shore ทัศนียภาพสองข้างทางเว้นระยะไปด้วยฟาร์มปศุสัตว์ ฉากหลังเป็นภูเขาไฟเฮกลา (Hekla) ที่มีความสูงถึง 1,491 m เหนือระดับน้ำทะเลและมีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ ผ่านการระเบิดมาแล้วถึง 18 ครั้งล่าสุดในปี 2000
ชม แหลม Dyrholaey (เดิมเรียกว่าเคปพอร์ตแลนด์โดยชาวอังกฤษ) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ จุดเด่นของที่นี่คือ หาดลาวาสีดำสนิท ที่ทอดตัวยาวหลายสิบกิโลเมตร โดดเด่นที่บริเวณริมผาจะเห็นประติมากรรมอันถูกสร้างสรรค์จากธรรมชาติ เป็นลักษณะแหลมหินที่มีรูขนาดใหญ่ยื่นลงไปในทะเล เมื่อมองกลับไปด้านหลังจะพบกับธารน้ำแข็ง Mýrdalsjökull glacier
ชม Trolls in Reynisdrangar ที่มีตำนานอันลึกลับกล่าวขานว่า พวกปีศาจพยายามแอบลากเรือออกจากฝั่งของเมือง Vik แต่ถูกจับได้ โดยเทพเจ้าแห่งแสงแดดในยามรุ่งสาง เหล่าปีศาจร้ายจึงถูกสาปให้กลายเป็นหินรูปทรงแปลกประหลาดน่าเกลียดน่ากลัวตั้งอยู่กลางท้องทะเล
เดินทางต่อสู่เส้นทางเลียบชายหาด แวะชม LavaField ซึ่งเป็นทุ่งหญ้ามอสที่ปกคลุมอยู่บนหินลาวา เมื่อถ่ายภาพออกมา จะกลายเป็นภาพที่แปลกตาแต่สวยงาม
คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Klaustur
Day 5 : Skaftafell – Svartifoss – SvinafellsJokull – Vatnajokull Jokulsarlon – Hofn
ชม อุทยานแห่งชาติ Skaftafell อันมีภูมิประเทศคล้ายคลึงกับเทือกเขา Alp มีลักษณะเป็นเขตธารน้ำแข็งที่ก่อต่อขึ้นมาหลายพันปีจากอิทธิพลการระเบิดของภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งที่ทำให้เกิด Glacier Floods
ชม ธารน้ำแข็ง SvinafellsJokull อันมีลักษณะเป็นกราเซียที่เกิดจากธารน้ำแข็ง Vatnajokul ผู้มาเยือนสามารถถ่ายภาพกับวิวกลาเซียและก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในทะเลสาบเบื้องล่างอันแสนพิเศษนี้
ชมน้ำตกดำ หรือ Black waterfall ที่ตกลงมาจากหน้าผาหินบะซอลท์ ที่มีรูปร่างแปลกตา (เดิน 30 นาที)
ชม ธารน้ำแข็งเรียกว่า VATNAJOKULL มีขนาด 8,300 ตร.กม. เท่ากับธารน้ำแข็งทั้งหมดในทวีปยุโรปรวมกัน และขนาดความหนามากที่สุดประมาณ 1,000 เมตร ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรป
ชม Jallsárlón ทะเลสาบอันเกิดจากธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาบรรจบกับแอ่งน้ำเบื้องล่าง อยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติ Vatnajökull
ชม โจกุลซาลอน (Jokulsarlon) ซึ่งถือเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ธารน้ำแข็งแห่งนี้ เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 1934-1935 ต่อมาจึงเกิดการละลายเรื่อยๆ จนเพิ่มพื้นที่มากขึ้นในทุกๆ ปี
AMPHIBIAN BOAT TOURล่องเรือชมความงามของภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ท่ามกลางทิวทัศน์อันสวยงามแปลกตา ตื่นตากับธารน้ำแข็ง 1000 ปี หากโชคดีอาจจะเจอแมวน้ำรอต้อนรับ
คืนนี้เราจะพักกันที่ Hofn ทัวร์ไอซ์แลนด์ Summer 2563
Day 6 : Hofn – vesturhorn – Dettifoss – Hverarondor Hverir -Myvatn
เตรียมตัวเดินทางสู่ใจกลางประเทศไอซ์แลนด์ วันนี้เราจะลัดเลาะไปตามแนว East Fjord มีหน้าผาสูงชันและเลียบไปตามทะเล แวะถ่ายรูปทัศนียภาพอันแปลกตา ที่น่ามองอีกจุดหนึ่งของ Iceland
ชม Vesturhorn ภูเขารูปทรงแปลกตาตั้งยื่นออกไปในท้องทะเลสีตัดกับหาดทรายสีดำสนิทอยู่ริมทะเลดูลึกลับอย่างยิ่ง
เดินทางข้าม Pass Modradalsfjallgurdar อันมีหิมะปกคลุมในช่วงฤดูหนาวตลอดเส้นทาง เราจะเห็นทัศนียภาพเป็นหุบเขาสีขาวสวยงามตระการตา พร้อมมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงทางตะวันออกที่ชื่อเมือง Egilstadir
น้ำตก Dettifoss อันเป็นสถานที่ถ่ายภาพยนต์เรื่อง Prometeus น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่ใหญ่และทรงพลังที่สุดในทวีปยุโรป ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Vatnajökull
ชม สถานีพลังงาน Krafla เป็นสถานีพลังงานความร้อนใต้พิภพใหญ่ที่สุดของประเทศ ขนาด 60 เมกะวัตต์ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟ Krafla ในไอซ์แลนด์
Hverarondor Hverir อันเป็นทางออกของพลังงานความร้อนจากใต้พิภพ เกิดเป็นบ่อโคลนเดือดและควันกำมะถันพวยพุ่งออกมาจากหลุม เดินทางผ่านชมทะเลสาบสีเทอควอยต์ที่มีโรงไฟฟ้าพลังความร้อนพ่นควันฉุยตั้งอยู่เคียงข้าง
ชม Hverfjall ซึ่งเป็นภูเขาไฟรูปทรงโคลนและมีขนาดความกว้างของปล่องประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถเดินเท้าขึ้นไปที่ปากปล่องเพื่อ ชมวิวของ Lake Myvatn และความอลังการของปล่องภูเขาไฟได้ ซึ่งปากปล่องสูงถึง 463 เมตร
น้ำตก Godafoss ที่ได้รับฉายาว่า น้ำตกแห่งพระเจ้า “Waterfall of the Gods”
เมืองอาคูเรย์รี (Akureyri) เมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไอซ์เเลนด์ และยังเป็นศูนย์กลางการทำประมง โบสถ์อาคูเรย์รี (Akureyrakirkja) สัญลักษณ์ของเมือง สถาปนิกผู้ก่อสร้างโบสถ์นี้คือ Gudjon Samuelsson เป็นคนเดียวกับผู้ออกแบบ Hallgrimskirkja โบสถ์ลูเธอรันนี้ออกแบบเสร็จในปี 1940 ภายในโบสถ์ประกอบด้วยท่อออร์แกน 3200 อันที่นำมาจากประเทศเยอรมันในปี 1961 มีภาพของพระเยซูและเรือทำมือที่แขวนจากเพดาน ตามความเชื่อของชาวนอร์ดิกโบราณ
อิสระแก่ทุกท่านเพื่อช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าบนถนนคนเดินเกเรอโตรกาตา (Gerartogata)
คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Akureyri ทัวร์ไอซ์แลนด์ Summer 2563
Day 7 : whale Watching – Holmavik – Drangsnes
ล่องเรือ ชมปลาวาฬ จะมีโอกาสเห็นวาฬมิงค์
เดินทางสู่ Holmavik เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดใน Strandir เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจเกี่ยวกับคาถาการไล่แม่มดและเวทมนตร์ มีพิพิธภัณฑ์ไสยศาสตร์ ประชากรส่วนใหญ่ใน Holmavik ทำอาชีพเลี้ยงแกะและทำประมง
Drangsnes เป็นหมู่บ้านชาวประมงอยู่ใกล้กับเมือง Holmavik ที่เป็นหมู่บ้านชาวประมงเช่นเดียวกัน ตำนานบอกไว้ว่ามียักษ์พยายามจะขุด Westfjords และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดใน Drangsnes อีกด้วย นอกจากนั้นที่นี่ยังเต็มไปด้วยนก Puffins รวมไปถึงการทำฟาร์มสุนัขจิ้งจอก
คืนนี้เราจะพักกันที่ เมือง Drangsnes
Day 8 : Grímsey Island – Puffin Paradise – Ísafjörður – Latrar Air Station
นำท่านสู่เกาะ Grímsey เป็นเกาะเล็กๆโรแมนติกๆ อยู่ทางเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ สามารถชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน ได้ในช่วงฤดูร้อน และที่นี่ยังเต็มไปด้วยนกมายมายหลายสายพันธ์ โดยเฉพาะนกพัพฟินส์ ที่จะบินมาวางไข่ในช่วงฤดูร้อน
นำท่านสู่ Isafjörður เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทร Westfjords มีผู้อยู่อาศัย 2600 คน การเติบโตของเมืองนี้เกิดจากการผลิตปลาเค็มและนับตั้งแต่นั้นมาอุตสาหกรรมการประมงก็มีความสำคัญสำหรับชุมชน
Latrar Air Station ก่อตั้งขึ้นเป็นสถานีเรดาร์องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ในปี 1992 สถานีนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาชื่อ Bolafjall ในวันอากาศดีเราจะมองเห็นไปได้ถึงเกาะกรีนแลนด์
คืนนี้เราพักกันที่ Ísafjörður
Day 9 : Ísafjörður – Dynjandi – Látrabjarg – Ferry – Grundarfjordur
Dynjandi น้ำตกแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ น้ำตก ดีนจันดิ (Dynjandi) ในประเทศไอซ์แลนด์ มีความสูงกว่า 100 เมตร หรือสูงเท่าตึก 20 ชั้น มีขนาดกว้างกว่า 60 เมตร แม้จะไม่ใช่น้ำตกใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็มีขนาดใหญ่มาก เมื่อนักท่องเที่ยวไปยืนอยู่ฐานน้ำตก ทำให้ดูเหมือนตัวเล็กลงไปทันที ภายในรายล้อมไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้ป่านานาพรรณ สามารถเก็บภาพความสวยงามได้ตลอดทาง
Látrabjarg เป็นหน้าผารังนกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป และเป็นหน้าผาอันเป็นที่อยู่ของนกนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น นกพัพฟิน, นกแกนแนทเหนือ, gulliemots, razorbills เป็นผาที่มีความสูง 440 เมตรและยาวถึง 14 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความสวยงามของฝารังนก ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งไอซ์แลนด์
เดินทางกลับสู่ Snæfells peninsular โดยเรือ Ferry (3hrs)
ชม Kirkjufell ภูเขาทรงหมวก และน้ำตก Kirkjufellsfoss อันเป็นสถานที่สำคัญเลื่องชื่อ ที่หากมาเยือน iceland แล้ว ต้องห้ามพลาดถ่ายรูปกับสถานที่แห่งนี้
พักที่ Grundarfjordur
Day 10 : Reykjavik – Bluelagoon
มุ่งหน้าสู่ เมือง Keflavik แวะผ่อนคลายกันที่ บลูลากูน (BlueLagoon) หรือทะเลสาบสีฟ้า ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ สามารถลงไปแหวกว่าย นอนแช่ในบ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิความร้อนของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียสได้อย่างสบายๆ ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งตัวน้ำพุร้อนอันบริสุทธิ์ยังเต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยรักษาโรคได้อีกด้วย (กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำไปด้วยครับ)
ออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก อำลาเมืองไอซ์แลนด์ เช็คอินสายการบิน Iceland Air เที่ยวบินที่ FI202 เวลา 18.55 เพื่อออกเดินทางสู่เมือง Copenhagen ถึงเวลา 23.55 น.
***เวลาเที่ยวบินภายในอาจมีการเปลี่ยนแปลง ตามฤดูกาล***
คืนนี้เราจะพักกันที่เมือง Copenhegen
Day 11 : Copenhegen – Bangkok
หลังอาหารเช้า พักผ่อนตามอัธยาศัย 12.00 น. นำเชคอินสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG951 ออกเดินทางเวลา 14.25 น. บินจาก โคเปนเฮเกน กลับสู่ กทม
Day 12 : Bangkok
06.00 น. เดินทางถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
ดูภาพรีวิวทริปเส้นทางเที่ยวไอซ์แลนด์ >> https://www.painaima.com/trip-review/iceland/
ดูรูปสวยๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://500px.com/search?q=iceland+summer&type=photos&sort=relevance