ทัวร์กรีนแลนด์-หมู่เกาะแฟโร 2563
Day 1 : Bangkok
22.00 น.
นัดพบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทีมงานอำนวยความสะดวกเช็คอินสายการบิน Thai Airways
Day 2: Bangkok – Copenhagen – Faroe Island -Kirkjubour
Magnus Catherdal – Torshavn
01.20 น.
ออกเดินทางโดยสายการบิน Thai Airways เที่ยวบินที่ TG950 ไปยัง Copenhagen
07.40 น.
เดินทางถึงสนามบิน โคเปนฯ จากนั้นต่อเครื่องภายในประเทศ ไปยัง สนามบิน Sorvagur แห่งแฟโร โดยสายการบิน Scandinavian Airlines เที่ยวบินที่ SK 1777* (12.30-13.45)
*สายการบินอาจเปลี่ยนแปลงได้
13.45 น. เดินทางถึงสนามบินแฟโร นำท่านเที่ยวชมหมู่เกาะแฟโร (Faroe Island) เป็นประเทศในกลุ่มเกาะจำนวน 18 เกาะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ มหาสมุทรแอตแลนติกระหว่างสกอตแลนด์ นอร์เวย์และไอซ์แลนด์หมู่เกาะแฟโรเป็นเขตการปกครองตนเองของ เดนมาร์ก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 โดยมีสถานภาพเหมือนกับกรีนแลนด์มีอำนาจในการปกครองตนเองทุกด้าน
ชม Trøllkonufingur (Witches Finger) เสาหินรูปร่างประหลาดและโดดเด่นที่ขึ้นตรงชายฝั่ง Vágar คนแฟโรได้ตั้งชื่อนี้เป็นเพราะมีลักษณะที่คล้ายนิ้วของแม่มดและมีตำนานว่าแม่มดได้สร้างเสาหินนี้ขึ้นมายังชายฝั่งอีกด้วย
เดินทางสู่ เมืองเคิร์กจูบูเออร์ (Kirkjubour) หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้ของเกาะแฟโร เป็นหมู่บ้านที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และมีบ้านไม้ที่อายุเก่าแก่ที่สุดซึ่งสร้างต้้งแต่ศตวรรษที่ 11
นำท่านเข้าชม โบสถ์หินโบราณแมกนาส (Magnus Catherdal) ชมความงดงามของโบสถ์หินโบราณที่ยังคงอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งดื่มด่ำกับ ทัศนียภาพของบ้านไม้โบราณที่นิยมปลูกหญ้าบนหลังคาเลียบชายฝั่งมหาสมุทร
คืนนี้พักที่ ทอร์ชวาน ทัวร์กรีนแลนด์-หมู่เกาะแฟโร
Day 3 : Sørvágsvatn – Kvivik Village
ชมความงามของ Sørvágsvatn ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะฟาโร ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ Vágar ที่อยู่ติดกับชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งอยู่ที่ความสูง 30 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลที่ปลายสุดของทะเลสาบจะมีน้ำตก Bøsdalafossur อีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงามของเกาะ
ถึง Trælanípan (Slave Cliff) ท่านจะเห็นทะเลสาบที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล เมื่อถ่ายรูปออกมาจะเห็นเป็นภาพหลอกตา เหมือนกับภูเขาเป็นแอ่งและมีน้ำอยู่ข้างในและลอยอยู่บนมหาสมุทร ซึ่งจริงๆ แล้วทะเลสาบที่เห็นอยู่นี้ สูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียงแค่ 30 เมตรเท่านั้น
ล่องเรือสู่ Mykines ถิ่นฐานของนกพัฟฟินที่น่ารัก ใช้ในการวางไข่ นอกจากจะที่อยู่ของนกแถบโซนอาร์คติกไม่ว่าจะเป็นนกพัพฟิน (puffins) ที่อาศัยอยู่ตามชะง่อนผา และ นกอาร์คติดเทิร์น และอีกนานาชนิด เก็บภาพความสวยงามของผาหิน และ นกนานาพันธุ์ (11.20-16.20)
หมู่บ้านไคว์วิค (Kvivik Village) ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดบนหมู่เกาะแฟโรและยังคงมีหลักฐานทางโบราณคดีที่แสดงให้เห็นว่าชาวไวกิ้ง ได้มีการตั้งถิ่นฐานที่หมู่บ้านแห่งนี้เมื่อประมาณศตวรรษที่ 18 เห็นได้จากบ้านเรือนของชาวไวกิ้งโบราณที่ยังคงหลงเหลืออยู่
พักที่ Torshavn ทัวร์กรีนแลนด์-หมู่เกาะแฟโร 2563
Day 4 : Mykines
หลังอาหารเช้า พานั่งเรือไปยังจุดชมวิว Drangarnir ท่านจะเห็นหินที่ขึ้นขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทะเล ความอัศจรรย์คือหินนั้นมีรูขนาดใหญ่ที่เป็นจุดเด่นและเอกลักษณ์ของเกาะแฟโรอีกด้วย
นำท่านถ่ายรูปกับ น้ำตกมูลาฟอส เซอร์ (Mulafossur Waterfall) ซึ่งเป็นน้ำตกที่เปรียบเสมือนซิกเนเจอร์ของหมู่เกาะแฟโร ให้ท่านได้ชื่นชมกับธรรมชาติและความสวยงามของน้ำตกซึ่งมีฉากหลังเป็นภูเขาสวยงาม
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองทอร์สเฮาน์ (Torshavn) ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะแฟโร ดินแดนของประเทศเดนมาร์ก ตั้งอยู่ทางตอนใต้และเป็นส่วนหนึ่งของชายฝั่งทิศตะวันตกของเมืองสเตรอเมอนา นำท่านถ่ายรูปกับบ้านหลังคาหญ้า (Tiganes) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมือง
พักที่ Torshavn ทัวร์กรีนแลนด์-หมู่เกาะแฟโร 2563
Day 5 : Torshavn – Copenhagen
08.20 น. เดินทางกลับ โคเปนฯ โดยสายการบิน Atlantic Airways เที่ยวบินที่ RC450
11.25 น. เดินทางถึง เมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) เมืองหลวงของ ประเทศเดนมาร์ก (Denmark) เป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของยุโรปก่อตั้งมาราวศตวรรษที่ 10 และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ได้รับฉายาว่าเป็น “สวรรค์แห่งเมืองท่า และดินแดนแห่งเทพนิยายรักอมตะ”
พาท่านไปถ่ายรูปกับเงือกน้อย little mermaid ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโคเปนเฮเกน ที่กำลังนั่งรอเจ้าชายตามเทพนิยายอันเลื่องชื่อ ของนักเล่านิทานระดับโลกฮันส์คริสเตียน-แอนเดอร์สัน
Amalianborg Castle พระราชวังที่สร้างขึ้นสำหรับประทับช่วงฤดูหนาว ประกอบด้วยอาคารสี่หลังใหญ่ ล้อมรอบพื้นที่ทรงแปดเหลี่ยม ตรงกลางด้านในนั้นประดิษฐานอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้าของผู้ก่อตั้ง Amalienborg ของกษัตริย์เฟรเดอริที่ 5
ท่าเรือ Nyhavn ที่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลากสีสัน เพราะรายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ผับ บาร์ ตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทาง ผสานไปด้วยบ้านเรือนสไตล์แดนิชหลากสีสันที่สร้างขึ้นได้อย่างสวยงาม
พักที่ Copenhagen
Day 6 : Copenhagen – Kangerlussuaq – Ice Cap Point 660 Russell Glacier
09.00 น. เดินทางสู่ เมือง Kangerlussuaq โดยสายการบิน Air Geenland เที่ยวบินที่ GL779
09.40 น. เดินทางถึง Kangerlussuaq ออกเดินทางสู่ Ice Cap Point 660 ชั้นน้ำแข็งที่ปกคลุมพื้นโลก (แถบขั้วโลกเหนือและใต้) อีกหนึ่งประสบการณ์อันน่าจดจำที่จะได้อยู่บนแผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมทั้งประเทศคิดเป็น 10% ของโลก ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากแอนตาร์กติกา
สัมผัสกับธารน้ำแข็งรัสเซล (Russell Glacier) หน้าผาน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 60 เมตรเด่นตระหง่านอยู่ตรงหน้า จินตนาการรูปลักษณ์คล้ายดั่งสัตว์ในเขตขั้วโลกเหนือ อาทิ หมีขาว แมวน้ำ หรือธารน้ำตก อันเป็นประติมากรรมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เราจะค่อยๆเดินขึ้นไปบนธารน้ำแข็งซึ่งทรงพลังที่สุดในธรรมชาติ ความใหญ่โตมหึมาล้อมรอบ 360 องศาที่จะทำให้ตื่นเต้นตลอดเวลาในการเดินอยู่บนธารน้ำแข็งที่ยังคงเหลืออยู่ในกรีนแลนด์ และแอนตาร์กติกาเท่านั้น
พักที่ Old Camp
Day 7 : Kangerlussuaq – Ilulissat
08.40 น.
ออกเดินทางไปยังเมือง Ilulissat โดยสายการบิน Air Geenland ถึงเวลา 9.25 น.
ชม โบสถ์ Zion Church ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในกรีนแลนด์ยุคนั้น
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมืองอิลูลิสแซต (Iluissat Museum) ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวของแหล่งก่อนประวัติศาสตร์ Sermermiut อันเป็นถิ่นฐานของมนุษย์ยุคหิน และเรื่องราวของชนพื้นเมืองคือ อินูอิต (Enuit) หรือเอสกิโม (Eskimo) วิถีชีวิต วัฒนธรรม และเส้นทางการค้าของพวกเขากับชาวยุโรป รวมถึงเรื่องราวของนักสำรวจขั้วโลกเหนือที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Knud Rasmussen นักสำรวจขั้วโลกเหนือผู้ยิ่งใหญ่
Ilulissat Icefjord ความยาวราว 70 กิโลเมตร หรือที่เรียกกันในภาษาท้องถิ่นว่า Kangia จะเต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งและภูเขาน้ำแข็ง (Iceberg) อันมีที่มาจากธารน้ำแข็งเซอร์เมก คูยาลเลก (Sermeq Kujalleq) ทางด้านทิศตะวันออก ไหลลงสู่ท้องทะเลและมาออกทะเลเปิดบริเวณอ่าวดิสโก (Disko Bay) มีแผ่นน้ำแข็งลอยน้ำขนาดใหญ่โตมากมายกระจัดกระจายอยู่ตามผืนน้ำ รวมพื้นที่ทั้งหมดของแหล่งมรดกโลกแห่งนี้ราว 4,000 ตารางกิโลเมตร
พักที่ Hotel Hvide Falk
Day 8: Whale Watching – Zion Church
หลังมื้อเช้าพาชมปลาวาฬ พบว่าดินแดนขั้วโลกเหนือแห่งนี้มีปลาวาฬกว่า 15 ชนิด ที่สามารถพบเห็นได้ โดยเฉพาะ วาฬหลังค่อม วาฬฟิน และวาฬมิงก์ นำท่านออกสำรวจปลาวาฬอย่างใกล้ชิด
ล่องเรือชม Iceberg ที่ Disko Bay ช่วงพระอาทิตย์เที่ยงคืน จะเห็นภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ มีแผ่นน้ำแข็งลอยน้ำขนาดใหญ่โตมากมายกระจัดกระจายอยู่ตามผืนน้ำ รวมพื้นที่ทั้งหมดของแหล่งมรดกโลกแห่งนี้ราว 4,000 ตารางกิโลเมตร
พักที่ Hotel Hvide Falk
Day 9 : Eqip Sermia
นำท่านนั่งเรือไปทางตอนเหนือของอิลลูลิแซท เมืองปากอ่าวธารน้ำแข็ง อิควิป เซอร์เมีย (Eqip Sermia) หรือรู้จักกันในชื่อ “Eqi” กล่าวได้ว่าเป็นธารน้ำแข็งเก่าแก่อายุหลายหมื่นปี ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพียงแห่งเดียวที่มนุษย์สามารถเข้าไปชมได้อย่างใกล้ชิดที่สุด จัดเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2004 เป็นมรดกทางธรรมชาติของโลกที่น่าตื่นตาตื่นใจซึ่งก้อนน้ำแข็งจำนวนมหาศาลไหลลงทะเลทาง Ilulissat Icefjord (อิลลูลิแซท ไอซ์ฟยอร์ด) ถือได้ว่าเป็นที่สุดของธารน้ำแข็งทางฝั่งตะวันตกของกรีนแลนด์
พักที่ Hotel Hvide Falk
Day 10 : Ilulissat – Kangerlussuaq – Copenhagen
เดินทางไปยังเมือง Copenhagen โดยสายการบิน Air Geenland เที่ยวบินที่ GL571 แวะเปลี่ยนเครื่องที่ Kangerlussuaq (10.10-11.00) แล้วต่อโดยสายการบิน Air Geenland เที่ยวบินที่ GL780 (11.40-20.00)
พักที่ Park Inn by Radisson Copenhagen Airport หรือเทียบเท่า
Day 11 : Copenhagen – Bangkok
หลังรับประทานอาหารเช้า อิสระตามอัธยาศัย ได้เวลาสมควรเตรียมเก็บสัมภาระและเดินทางไปยังสนามบิน
14.25 น.
ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสารการบิน Thai Airways เที่ยวบินที่ TG951
Day 12 : Bangkok
06.00 น.
เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
ดูรูปสวยๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ >> https://500px.com/search?q=greenland&type=photos&sort=relevance